EASTW บ่ายเสี่ยงรูด! แพ้ประมูล “ท่อส่งน้ำตะวันออก” โบรกชี้กระทบ “รายได้-กำไร” แบกภาระหนี้

EASTW บ่ายเสี่ยงรูด! แพ้ประมูล “ท่อส่งน้ำตะวันออก” หลังบอร์ดที่ราชพัสดุไฟเขียว “วงษ์สยามก่อสร้าง” คว้างาน โบรกชี้กระทบ “รายได้-กำไร” และมีภาระหนี้เพิ่มขึ้น หลังต้องลงทุนท่อส่งน้ำเพิ่มเพื่อทดแทนเส้นท่อส่งน้ำเดิม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมของคณะกรรมการที่ราชพัสดุ โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เพื่อพิจารณาผลการคัดเลือกเอกชนเข้าบริหารโครงการบริหารท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออก (จัดให้เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออก) โดยมีมติ 6:3 เห็นชอบบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลในครั้งนี้  และกำหนดระยะเวลาให้ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW ดำเนินงานส่งมอบท่อภายใน 60 วัน

ทั้งนี้หลังจาก บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เสนอประโยชน์ผลตอบแทนในโครงการบริหารท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออกให้กับภาครัฐสูงสุด โดยเสนอผลประโยชน์ตอบแทนเป็นจำนวนเงิน 25,693.22 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 30 ปี เอาชนะคู่แข่งที่เสนอผลประโยชน์ตอบแทนฯ เป็นอันดับ 2 คือ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) หรือ ‘อีสท์วอเตอร์’ ซึ่งเสนอประโยชน์ตอบแทนให้กับภาครัฐเป็นจำนวนเงิน 24,212.84 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมการที่ราชพัสดุ เปิดเผยว่าหากรัฐเดินหน้าโครงการตามแผน เซ็นสัญญาให้ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง เข้ามาบริหาร ก็จะได้รับเงินก้อนแรก 1.6  พันล้านบาททันที และในแต่ละปีรัฐจะได้ผลตอบแทนปีละ 500 ล้านบาทตามสัญญาใหม่ แต่ถ้าเป็นรายเดิม EASTW รัฐจะได้ผลตอบแทนเพียงปีละ 50 กว่าล้านบาทเท่านั้น ซึ่งต่างกันกว่า 10 เท่าตัว  ดังนั้นผลเสียที่ตามมา ก็คือ ประโยชน์ของภาครัฐที่หายไปในแต่ละเดือน และแต่ละปี หากชะลอโครงการออกไป

โดยระบบท่อยังแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนหนึ่งมีสัญญากับเอกชนรายเดิม (EASTW)  ซึ่งจะครบในปี 2566 และอีกส่วนหนึ่งไม่มีสัญญา ที่ต้องส่งมอบให้ผู้ชนะประมูลโดยทันที แต่ศาลปกครองไม่ได้แยกให้ชัดเจนว่าจะตัดสินส่วนไหนก่อน ปล่อยให้ EASTW บริหารต่อไปโดยไม่มีสัญญาได้อย่างใด ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ส่วนนี้อย่างชัดเจน

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เคยเปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า กรณีที่บอร์ดที่ราชพัสดุอนุมัติให้เซ็นสัญญากับ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง และหากภายหลังศาลตัดสินให้ EASTW เป็นฝ่ายชนะคดี ในกรณีการยกเลิกสัญญาไม่ชอบ และ EASTW ให้เพิกถอนสัญญากับวงษ์สยามนั้น นายประภาศ กล่าวว่าไม่สามารถทำได้ EASTW ทำได้แต่เพียงเรียกร้องค่าเสียหายจากกรมธนารักษ์เท่านั้น

ทั้งนี้ตามระเบียบของศาลปกครองสูงสุด ในข้อ 73 วรรคสอง กรณีศาลฯ มีคำสั่งยกคำฟ้องให้เป็นที่สุดแล้ว EASTW ก็ไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้อีกต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาศาลปกครองกลางก็ยกคำฟ้องเป็นที่สุดไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้อีก

อนึ่งล่าสุด ณ เวลา 14:35 น. ราคาหุ้น EASTW อยู่ที่ระดับ 8.00 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 0.62% โดยทำจุดสูงสุดที่ 8.05 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 7.95 บาท ด้วยมูลค่าการซื่อขาย 10.12 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินต่อ EASTW ว่า กรณีแพ้ประมูลในการต่อสัญญาท่อส่งน้ำดิบหลัก 3 เส้น คือ โครงการท่อส่งน้ำดอกกราย โครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) ที่สัญญาจะหมด 31 ธ.ค. 2566 ซึ่งท่อส่งน้ำทั้ง 3 เส้นมีรายได้คิดเป็นราว 30% ของรายได้น้ำดิบ ซึ่งปัจจุบันทาง EASTW อยู่ระหว่างฟ้องร้องกับศาลปกครองกลางขอให้เพิกถอนมติหรือคําสั่งยกเลิกกํารคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารท่อส่ง น้ำฯของคณะกรรมการคัดเลือกและเพิกถอนประกาศพร้อมหนังสือเชิญชวนฉบับใหม่วันที่ 23 ก.ย.2564 ซึ่งหากแพ้คดีจะส่งผลต่อรายได้และกำไรของ EASTW ในอนาคต รวมถึงต้องมีการลงทุนท่อส่งน้ำเพิ่มเพื่อทดแทนเส้นท่อส่งน้ำเดิม ซึ่งจะทำให้มีภาระหนี้เพิ่มขึ้น

Back to top button