SEAOIL บวก 4% นิวไฮรอบ 2 เดือน คาดเก็งงบ Q3 แจ่ม แย้มรายได้ปีนี้โตไม่น้อยกว่า 20%

SEAOIL บวก 4% นิวไฮรอบ 2 เดือน คาดเก็งงบไตรมาส 3/65 เด่นต่อ-แย้มรายได้ปีนี้โตไม่น้อยกว่า 20%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(3 พ.ย.65)ราคาหุ้นบริษัท ซีออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAOIL ณ เวลา 15:11 น. อยู่ที่ระดับ 4.48 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 4.19 % สูงสุดที่ระดับ 4.56 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.32 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52.74 ล้านบาท ราคาหุ้นแรงในรอบ 2 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 4.50 บาท เมื่อวันที่ 28 ส.ค.65

สำหรับ SEAOIL รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิ 152.75 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 273.04% จากงวดเดียวกันปี อยู่ที่ 40.94 ล้านบาท โดยผลประกอบการพลิกมีกำไรเนื่องจากรายได้จากการบริการไตรมาส 2 /65 อยู่ที่ 11.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/64 อยู่ที่ 76.16 ล้านบาท

เนื่องจากรายได้จากการขายและให้บริการรวมจำนวน 6,049.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 154.05 เมื่อ เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการจำหน่ายน้ำมันเป็นหลัก รายได้จากการจำหน่ายน้ำมันที่ เพิ่มขึ้นเกิดจากราคาน้ำมันในตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปริมาณการจำหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้นร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ลุ้นผลงานไตรมาส 3/65 เด่นต่อเนื่อง และลุ้นผลงานปีนี้โตโดดเด่น หลังครึ่งปีแรก 65 โกยกำไรสูงกว่าปีก่อน

โดยนางสาวนีรชา ปานบุญห้อม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SEAOIL เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 11,354.13 ล้านบาท โดยมาจาก 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และธุรกิจ Catering & Service ส่วนธุรกิจขุดเจาะและสำรวจปิโตรเลียม (E&P) ผ่านบริษัทแพน โอเรียนท์ เอ็นเนอยี่ (สยาม) ลิมิเต็ด จะรับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมค้า จึงยังไม่ได้นำมาคำนวณรวมในรายได้ดังกล่าว

ทั้งนี้บริษัทมีแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และธุรกิจ Catering & Service ซึ่งมองว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโต ซึ่งจะเน้นขยายไปยังประเทศที่มีศักยภาพ รวมทั้งการเจาะและขยายตลาดเดิมทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีศักยภาพ สามารถขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในต่างประเทศ คิดเป็น 80% ธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทย คิดเป็น 10-20% ส่วนธุรกิจ Catering & Service คิดเป็นสัดส่วยรายได้ประมาณ 2-3% ของรายได้รวมทั้งหมด

สำหรับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2564 และเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของบริษัท แบ่งเป็น ธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งยังไม่กระทบกับมาร์จิ้นของบริษัท แต่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด เนื่องจากในช่วงราคาน้ำมันแพง ตลาดจะมีดีมานด์ที่จำกัด ส่วนธุรกิจ E&P นั้น แน่นอนว่าจะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น

Back to top button