DRT มั่นใจกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อน ตั้งเป้ารายได้ปี 59 โตไม่ต่ำกว่า 5%

DRT มั่นใจกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อน ตั้งเป้ารายได้ปี 59 โตไม่ต่ำกว่า 5% หลังมองตลาดฟื้น-เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ


นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทมั่นใจว่ากำไรสุทธิจะดีกว่าปีก่อนที่ 289.29 ล้านบาท แม้ว่ารายได้ปีนี้จะทำได้เพียงใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 4,250.05 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่ารายได้จะเติบโตได้ 4% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบการกำลังซื้อของประชาชนปรับตัวลดลงจากผลกระทบด้านราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ  แต่อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีการบริหารจัดการในเรื่องของต้นทุน พร้อมทั้งเน้นการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงซึ่งเป็นส่วนช่วยสนับสนุนกำไรสุทธิในปีนี้

ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 59 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% จากปีนี้ หลังตลาดวัสดุก่อสร้างจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 4 ต่อเนื่องถึงปี 59 ตามความต้องการซื้อสินค้าในกลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น หลังภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการขยายช่องทางการขายของบริษัทและการเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 16-17% จาก 15% ในปีนี้ โดยจะเน้นการขยายในประเทศเมียนมาร์อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นประเทศที่มีประชากรมาก และการเลือกตั้งก็เสร็จสิ้นแล้วน่าจะทำให้สถานการณ์ในเมียนมาร์ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนยอดขายของบริษัทให้เติบโต  ส่วนในลาวก็มีอัตราการขยายตัวค่อนข้างมากหลังผู้บริโภคให้การตอบรับผลิตภัณฑ์กระเบื้องมุงหลังคาจตุลอนอย่างดี ขณะเดียวกันยังจะขยายการส่งออกไปในทวีปเอเชีย เช่น กัมพูชา อินโดนีเซีย และอินเดียด้วย

ส่วนอัตรากำไรสุทธิในปีหน้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 8% และอัตรากำไรขั้นต้นจะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 25% จากการบริหารจัดการต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต โดยบริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ราว 100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักรเดิมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่จะยังไม่ลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต เพราะกำลังการผลิตในปัจจุบันยังคงมีเพียงพอ โดยปัจจุบันบริษัทใช้กำลังการผลิตในระดับ 75% จากกำลังการผลิตทั้งหมด 982,000 ตัน/ปี

โดยแผนทำตลาดในประเทศนั้น บริษัทได้ใช้กลยุทธ์ปรับ Product Mix เน้นเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี ประกอบกับความสามารถบริหารจัดการต้นทุนการผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากปัจจัยบวกด้านต้นทุนด้านราคาวัตถุดิบและพลังงานที่ปรับตัวลดลง รวมถึงสามารถลดความสูญเสียในกระบวนการผลิตได้ดีขึ้น ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรสุทธิของ DRT ดีขึ้น

Back to top button