TRUE ร่วง 2% เซ่นโบรกแนะ “ขาย” หั่นเป้าเหลือ 7.60 บ. คาดปี 66 ขาดทุนราว 4.6 พันล้าน

TRUE ร่วง 2% เซ่นรายได้ไตรมาส 1/66 ที่อ่อนแอ ทำให้บล.เมย์แบงก์ หั่นประมาณการกำไรปี 66 จากกำไรปกติ 1.1 พันล้านบาท เป็นขาดทุนปกติ 4.6 พันล้านบาท พร้อมลดคำแนะนำเป็น “ขาย” ราคาเป้าหมายเหลือ 7.60 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 พ.ค. 66) ราคาหุ้น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ล่าสุด ณ เวลา 10:06 น. อยู่ที่ระดับ 7.95 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือ 2.45% สูงสุดที่ระดับ 8.05 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 7.95 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 88.76 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้น TRUE ปรับตัวลงสะท้อนที่บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2566 ขาดทุนสุทธิ 492 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการเคลมประกัน 350 ล้านบาท และการยุติคดีความ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผลขาดทุนสุทธิหลักในไตรมาส 1/2566 จะอยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับกำไรหลัก 1.3 พันล้านบาท ในไตรมาส 1/2565 และขาดทุนหลัก 1.9 พันล้านบาท ในไตรมาส 4/2565 โดยรายได้จากบริการหลักในไตรมาส 1/2566 อ่อนแอ (ลดลง 2.0%  เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และลดลง 1.7% จากไตรมาสก่อน) เนื่องจากรายได้จากธุรกิจมือถือ /FBB / เพย์ทีวีลดลง 1.7%/0.9%/1.9% จากไตรมาสก่อน ตามลำดับ

ด้าน บล.เมย์แบงก์  ระบุในบทวิเคราะห์โดยมีการปรับประมาณการปี 2566 จากกำไรปกติ 1.1 พันล้านบาท เป็นขาดทุนปกติ 4.6 พันล้านบาท สาเหตุหลักมาจากคาดการณ์รายได้ลดลง 2.3% โดยเราคาดการณ์รายได้จากบริการหลักในปี 2566 จะเติบโตที่ 0.8% ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายรายได้ของบริษัทในปีนี้ที่คาดว่าจะทรงตัว

นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าปี 2567 จะขาดทุนปกติที่ 2.1 พันล้านบาท (เทียบกับที่คาดไว้ก่อนหน้าที่กำไร 3.4 พันล้านบาท) และกำไรหลักปี 2568 ที่ 518 ล้านบาท (เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่กำไร 8.3 พันล้านบาท) หลังจากปรับลดประมาณการรายได้ปี 2567-68 ลง 3-4%

ทั้งนี้จากงบไตรมาส 1 ที่น่าผิดหวัง ทางฝ่ายวิจัยคาดว่านักวิเคราะห์ทั้งตลาดจะปรับลดประมาณการกำไรลงเช่นกัน ทั้งนี้ คาดว่าผลขาดทุนสุทธิหลักจะเพิ่มขึ้นจาก 117 ล้านบาท ในปี 2565 (ผลขาดทุนของTRUEE และ DTAC เก่า) เป็น 4.6 พันล้านบาทในปี 2566 (เทียบกับตลาดคาดการณ์ผลขาดทุน 384 ล้านบาท ) เนื่องจากค่าใช้จ่าย D&A เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และต้นทุนในการรวมธุรกิจ 1.6 พันล้านบาท ในปี 2566 ซึ่งคาดว่าผลขาดทุนหลักในไตรมาส 2/2566 จะอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท เนื่องจากรายได้ทรงตัวและอัตราค่าไฟฟ้า (ค่า Ft) ลดลงในเดือน พ.ค.

Back to top button