PRAPAT พุ่งแรง 13% รับผลงาน Q1 กำไรโตทะลัก 9 เท่าตัว   

PRAPAT พุ่งแรง 13% รับผลงาน Q1/66 กำไรโตทะลัก 946.48% หลังโกยรายได้ทะลุ 270 ล้านบาท ส่งซิกธุรกิจปี 66 โตเด่น รับเศรษฐกิจฟื้น-ธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาสดใส


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(15 พ.ค.66) บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT ณ เวลา 12:17 น. อยู่ที่ระดับ 2.36 บาท บวก 0.28 บาท หรือ 13.46% ราคาสูงสุด 2.36 บาท ราคาต่ำสุด 2.10 บาท  ด้วยมูลค่าซื้อขาย 24.30 ล้านบาท

นายวีระพงค์ ลือสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PRAPAT เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 ว่า บริษัทฯ สามารถทำผลงานเติบโตได้ตามเป้าหมาย มีรายได้รวม 269.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.44 ล้านบาท หรือ 30.19% และมีกำไรสุทธิ 14.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.44 ล้านบาท หรือ  946.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากยอดขายของบริษัทฯ ที่เติบโตตามสถานการณ์ปัจจุบันจากเศรษกิจประเทศและธุรกิจการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวและมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเฟื่องฟูตามเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวดังกล่าว

โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้น 62.44 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้หลักจากการขายอยู่ที่ 219.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.17 ล้านบาท หรือ 33.60%  ประกอบด้วยรายได้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ซักรีด 20.79 ล้านบาท กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัว 19.11 ล้านบาท และกลุ่มผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ 5.19 ล้านบาท รายได้จากการให้เช่าและบริการ อยู่ที่ 47.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.22 ล้านบาท หรือ 17.83% แบ่งเป็นรายได้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัว 5.19 ล้านบาท และรายได้ค่าบริการผลิตภัณฑ์สระว่ายน้ำ 1.80 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ  2.19 ล้านบาท เพิ่ม 0.05 ล้านบาท หรือ 2.34%

“อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวเร็วอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารกลับมาเติบโต และมีทิศทางที่สดใส ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นและการส่งสัญญาณที่ดีต่อทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัท ขณะเดียวกัน บริษัทได้เตรียมแผนเพิ่มกำลังการผลิต จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตประมาณ 1,000 ตันต่อเดือน หากมียอดออร์เดอร์เพิ่มในอนาคต เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด รวมถึงการปรับปรุงโรงงานรองรับแผนการผลิตในอีก  5 ปีข้างหน้า ให้สอดคล้องกับการขยายตัวของตลาดต่างประเทศ  โดยเฉพาะตลาดในเวียดนาม ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นเช่นเดียวกับตลาดในประเทศไทย และคาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2566 จะเป็นไปตามกลยุทธ์ที่กำหนด”  นายวีระพงค์   กล่าว

Back to top button