“พิธา” นำ “ส.ส.ก้าวไกล” รายงานตัวสภาฯ ยันไม่กังวลเรื่องส.ว.โหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

“พิธา” นำส.ส.พรรคก้าวไกลเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาฯแล้ว ยืนยันไม่กังวล ส.ว.ในขั้นตอนการโหวตเลือกนายกฯ เพราะมั่นใจจะมีเสียงสนับสนุนที่มากพอ


วันที่ 27 มิ.ย. 66  เมื่อเวลา 09.30 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้ นำ 149 ส.ส.พรรคก้าวไกล เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ทั้งนี้ได้เดินทางมาเป็นคณะ ด้วยรถโดยสารไม่ประจำทาง ขณะเดียวกันได้มีแฟนคลับมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้นายพิธา ให้สัมภาษณ์ว่าเหตุที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล มารายงานตัววันนี้ (27 มิ.ย.) เพราะมีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ชาติไทย และก่อนหน้านั้นตนติดโควิด-19

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า กังวลหรือไม่ ที่ล่าสุดยังมีข่าวว่า ส.ว. จะไม่โหวตสนับสนุนให้เป็นนายกฯ นายพิธา กล่าวว่า ไม่กังวล และเท่าที่คุยหลายคนมีหลักและดุลยพินิจในการโหวตเลือกตามบรรทัดฐานที่ส.ว.ที่ทำไว้ปี 2562 ว่า หากสภาล่าง ฝ่ายใดรวมกันได้ 251 เสียง ก็ไม่ต้องการฝืนมติของสภาล่าง เพราะเป็นมติที่มาจากประชาชน ดังนั้นจึงเชื่อว่า ภาพรวม 250 ส.ว. จะเป็นไปตามหลักการและขอให้ส.ว. ยึดหลักการดังกล่าวให้มั่น  มากกว่ามองเรื่องตัวบุคคลว่าจะโหวตให้ตนหรือไม่

อย่างไรก็ดี การเจรจามีความคืบหน้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตนเองมองว่าเป็นเพราะส.ว.ทุกคนไม่มีโอกาสได้พูดกับสื่อมวลชน มีส.ว.ไม่กี่คน ไม่ว่าจะฝั่งเห็นด้วยโหวตตนเป็นนายกฯ หรือ ฝั่งที่อยู่ตรงข้าม ดังนั้นต้องรอเวลา อย่างไรก็ดีจากการโทรศัพท์พูดคุยส.ว. ส่วนใหญ่เป็นเรื่องหลักการ ตามการโหวตนายกฯ ปี2562 เมื่อสภาฯล่างรวมเสียงได้มาก ไม่ควรมีใครมาขืน

เมื่อถามย้ำถึงจำนวนเสียง ส.ว.ที่จะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ นายพิธา กล่าวว่า “เพียงพอที่จะทำให้ผมเป็นนายกฯ”

ส่วนรประเด็นกรณีที่ส.ว.ยังคาใจกับการแก้ไขมาตรา 112 นายพิธา กล่าวว่า การแก้ไขมาตราดังกล่าวเป็นสิ่งที่พรรคได้พูดก่อนการเลือกตั้งที่ชัดเจนว่าจะเป็นการทางออกให้กับสังคมไทย เพราะช่วงที่ผ่านมามีการใช้มาตราดังกล่าวเป็นเครื่องมือทางการเมืองรังแกคนเห็นต่าง จึงไม่เป็นผลดีกับสถาบันใดเลย อย่างไรก็ดี ตนเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะไม่เป็นเหตุให้เส้นทางการจัดตั้งรัฐบาลสะดุด

เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีประเด็นพิจารณาคำร้องเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล กังวลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่กังวลใจเพราะเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญกับอัยการสูงสุด การแก้ไขกฎหมายฉบับหนึ่งไม่เท่ากับการล้มล้างการปกครอง ตามที่กล่าวหาและคิดว่าข้อกล่าวหานี้เกินจริงไปมาก ทั้งนี้ยืนยันว่ามีความตั้งใจที่จะรักษาระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่างหนักแน่น

ส่วนข้อสรุปของตำแหน่งประธานสภาฯ​ที่พรรคก้าวไกลยืนยันมาตลอด นายพิธา กล่าวว่า ขอให้รอในวันที่ 28 มิถุนายน ที่จะประชุมร่วมกับพรรคเพื่อไทย และจะแถลงเรื่องดังกล่าว

 

Back to top button