สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 121.97 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 120.68 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0925 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0941 ดอลลาร์/ยูโร

– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,299.12 จุด ลดลง 1.39 จุด หรือ 0.11% มูลค่าการซื้อขาย 48,662.37 ล้านบาท

– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 560.44 ล้านบาท (SET+MAI)

 

– ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 8/2558 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีในวันนี้มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% พร้อมติดตามปัจจัยเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง และภาวะตลาดการเงินโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง

– น.ส.ธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าว่า จะยังทรงตัวเช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะคงไว้ที่ 1.50% ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 59 ภายใต้เงื่อนไขที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และกิจกรรมเศรษฐกิจในประเทศค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นตามคาด

– ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด GDP ไทยในปี 59 ขยายตัวในช่วง 2.5-3.5% ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ 0.5-3.5% ส่วนอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 0.8-1.8% โดยมองการลงทุนภาครัฐยังเป็นบทบาทสำคัญที่เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่มีแรงหนุนเพิ่มจากการลงทุนภาคเอกชนที่กลับมาขยายตัว ประกอบกับการส่งออกไม่ติดลบ

– นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เล็งทาบบริษัทจีนที่เดินทางมาร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 4 ให้เข้าร่วมพัฒนาคลัสเตอร์ นอกเหนือจากการหารือถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟไทย-จีน นอกจากนี้อยากให้มีความร่วมมือด้านการวิจัยอีกด้วย

– นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมอีกในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ซึ่งเป็นแนวทางตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ ด้วยการกระตุ้นการเจริญเติบโตของฐานราก ซึ่งจะเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว

– กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ กำหนดแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 2559 ไว้ที่ 3.1% ซึ่งลดลงจากที่ได้ประเมินไว้ก่อนหน้าที่ 3.3% นอกจากนี้ยังได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2558 จาก 3.1% เหลือ 2.7% อีกด้วย

– กระทรวงการคลังสหรัฐ เผยจีนและญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ซื้อพันธบัตรรายใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐได้ปรับลดการถือครองพันธบัตรในเดือน ต.ค.58 โดยจีนลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐลง 3.2 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.2548 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นเดือนที่สองที่จีนปรับลดการถือพันธบัตรสหรัฐ ส่วนญี่ปุ่นได้ปรับลดสัดส่วนการถือพันธบัตรสหรัฐลง 2.79 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.1492 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดการถือครองพันธบัตรสหรัฐโดยต่างชาตินั้นปรับตัวลงสู่ระดับ 6.0463 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือน ต.ค.58 จากระดับ 6.1031 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือน ก.ย.58

– ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนให้คำมั่นว่า จีนจะยังคงเปิดประตูสู่ประชาคมโลก และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินทุนต่างชาติ

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์