“วันนอร์” เคาะประชุมรัฐสภาโหวตนายกฯ 22 ส.ค. นัดลงมติ 15.00 น.

"วันนอร์" ยืนยัน 22 ส.ค.นี้ โหวตนายกรัฐมนตรี รอบ 3 คาดเริ่มลงมติ 15.00 น. และจบในเวลา 17.00 น.


วันที่ 17 ส.ค. 2566   นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการประสานงานและเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา หรือคณะทำงานประสานงานข้อกฎหมายในวันนี้ มีข้อสรุปว่า ที่ประชุมฯ ได้เตรียมการสำหรับการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ หากกำหนดเวลานัดประชุมเช้ากว่านี้ กังวลว่า สส.-สว. จะได้รับผลกระทบจากการเดินทาง เนื่องจากในวันดังกล่าว จะมีการปิดเส้นทางการจราจรบางเส้นทางรอบอาคารรัฐสภาด้วย โดยวันที่ 18 ส.ค.) ตนได้นัดประชุมคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภา (วิป สว.) และผู้แทนพรรคการเมือง ซึ่งจะแจ้งให้ สว. และพรรคการเมืองรับทราบต่อไป

ประธานรัฐสภา ยังกล่าวถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาค้างอยู่ในวาระการประชุมรัฐสภา เพื่อขอให้รัฐสภาทบทวนมติการลงนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2  โดยระบุว่า ญัตติดังกล่าว ยังคงค้างอยู่ในวาระการประชุมของรัฐสภา และยังไม่มีข้อยุติ แต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขอให้วินิจฉัยมติรัฐสภาแล้ว จึงจะขอให้ที่ประชุมรัฐสภารีบพิจารณาโดยเร็ว และไม่ควรใช้เวลาไม่มาก

โดยจะหารือวิป 3 ฝ่าย เพื่อกำหนดเวลาพิจารณาอีกครั้ง โดยให้การพิจารณาบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สามารถลงมติได้ทันในเวลา 15.00 น. และจบในเวลา 17.00 น เนื่องจากการเลือกนายกรัฐมนตรีถือเป็นเรื่องด่วนที่สุด เพราะผ่านการเลือกตั้งมานานกว่า 3 เดือนแล้ว แต่ประชาชนยังไม่มีนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงยังมีกฎหมายรอการพิจารณาตามกำหนดเวลาจำนวนมาก

ส่วนกรณีที่นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯ ขอให้ประธานรัฐสภา นัดประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี โดยคำนึงถึงความพร้อมของพรรคเพื่อไทยด้วยนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า คงต้องเป็นเรื่องของพรรคการเมือง และขณะนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองใดขอให้เลื่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรีออกไป

โดยในวันพรุ่งนี้ ตนจะออกหนังสือนัดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีให้ สส. และ สว.รับทราบต่อไป

Back to top button