SINO พุ่งต่อ 8% จับตาเจรจาพันธมิตร “มาเลเซีย-เวียดนาม” ปิดดีลไตรมาส 1/67

SINO บวกต่อ 8% แย้มไตรมาส 3 เข้าสู่ช่วงพีก จับตาเจรจาพันธมิตร “มาเลเซีย-เวียดนาม” 2 ราย ปิดดีลไตรมาส 1/67 หนุนปริมาณขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ปีหน้าเพิ่มเป็น 5.5-6 หมื่นตู้ ด้าน SJWD เข้าถือหุ้นอันดับ 5 หวังเชื่อมกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์เสริมแกร่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ก.ย.66) ราคาหุ้น บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO ณ เวลา 10:11 น. อยู่ที่ระดับ 2.08 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 7.77% สูงสุดที่ระดับ 2.08 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.94 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 333.09 ล้านบาท

นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SINO เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนการนำเงินระดมทุนในครั้งนี้ไปขยายธุรกิจ อย่างการลงทุนเพื่อขยายพื้นที่บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ รวมถึงการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศอาเซียน และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศจำนวน 2 ราย ในประเทศมาเลเซียและเวียดนาม เพื่อลงทุนขยายกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโลจิสติกส์เพื่อซัพพอร์ตธุรกิจหลัก คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงไตรมาส 1/67  ซึ่งรูปแบบการลงทุนจะต้องขึ้นอยู่พันธมิตรด้วย อย่างไรก็ตาม คาดจะช่วยขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติมในภูมิภาคอาเซียน

ด้านผลการดำเนินงานในปีนี้ รายได้อาจจะลดลงเนื่องจากค่าระวางเรือที่ปรับลดลงจากปีก่อน แต่ในด้านปริมาณการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้น โดยปีนี้คาดว่าจะมีปริมาณการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 40,000 ตู้ จากปีก่อนประมาณ 35,000 ตู้ ขณะที่ปีหน้าคาดว่าหากมีการร่วมมือกับพันธมิตร ก็จะส่งผลให้มีปริมาณการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 55,000-60,000 ตู้

นางสาวจิรยง อนุมานราชธน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นจากไอพีโอเป็นที่น่าพอใจ สะท้อนว่านักลงทุนให้ความมั่นใจต่อพื้นฐานธุรกิจของบริษัท ซึ่งบริษัทมีแผนการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจที่ชัดเจนเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต ส่วนสถานะทางการเงินก็มีความแข็งแกร่ง เนื่องจากไม่มีหนี้กับทางสถาบันการเงิน

สำหรับการเข้ามาถือหุ้นของบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD ในสัดส่วน 4.21% เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 5 ของบริษัทนั้น เนื่องจากผู้บริหาร SINO นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ กับผู้บริหาร SJWD นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา รู้จักกันอยู่แล้ว โดยเข้ามาซื้อหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัทเพื่อเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic partner) และเชื่อว่าเป็นการเข้ามาถือหุ้นระยะยาว โดย SJWD เป็นผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์รายใหญ่ ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการมีความร่วมมือระหว่างธุรกิจ (Synergy) ร่วมกันในอนาคต

ด้านนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อํานวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จํากัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจําหน่ายและรับประกันการจําหน่าย กล่าวว่า การเข้ามาซื้อหุ้น SINO ในราคาเสนอขายหุ้น IPO ของ SJWD ซึ่งเป็นบริษัทโลจิสติกส์ในกลุ่มเอสซีจีนั้น ที่น่าจะเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของบริษัท และอยากเข้ามาเชื่อมต่อธุรกิจโลจิสติกส์เข้าด้วยกัน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจ อีกทั้งยังจะได้รับประโยชน์จากการเป็นพันธมิตรร่วมกันด้วย และน่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนรายย่อยด้วย จากการมีผู้ประกอบการรายใหญ่ให้ความมั่นใจในการลงทุนร่วมกับ SINO

ขณะที่ผลการดำเนินงานของ SINO ในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเข้าสู่ช่วงพีกซีซั่นของธุรกิจ หากเทียบเป็นรายไตรมาสแล้ว ในไตรมาส 3 จะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ที่ผ่านมา  โดยเฉพาะในแง่ของปริมาณการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จะเพิ่มขึ้น อีกทั้ง เชื่อว่าสถานการณ์ค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูงนั้น ขณะนี้ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

Back to top button