ITEL ดีด 5% รับงบ 9 เดือนกำไรแตะ 191 ล้าน ลุย “Health Tech” สร้างฐานเติบโต

ITEL ดีดกลับ 5% หลังงบ 9 เดือนกำไรโต 9% แตะ 191 ล้านบาท หลังตุน Backlog ปัจจุบัน 2,855 ล้านบาท พร้อม เล็งเห็นศักยภาพเติบโตใน Health Tech เข้าลงทุนใน “Global Lithotripsy Services Company Limited” หวังเสริมฐานให้แข็งแกร่ง ต่อยอดธุรกิจตามกลยุทธ์ New S-Curve


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 พ.ย. 66) ราคาหุ้น บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ณ เวลา 11:10 น. อยู่ที่ระดับ 2.32 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 4.50% สูงสุดที่ระดับ 2.34 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.28 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.31 ล้านบาท

นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ITEL ผู้ให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติก ที่มีความเสถียรภาพสูงสุดทั่วประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,938 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 191 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 175 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการที่บริษัทฯ มีการเติบโตในทุกธุรกิจ และความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566) บริษัทฯ มีรายได้รวม 754 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากไตรมาส 3/2565 ที่มีรายได้ 772 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 54 ล้านบาท โดยในเดือนตุลาคม 2566 บริษัทฯ มีรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงรายการเข้าซื้อหุ้นของ บริษัท โกลบอล ลิโธทริปซี่ย์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ GLS โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 100% เบื้องต้นคาดจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป

นายณัฐนัย กล่าวอีกว่า ITEL เล็งเห็นโอกาสการเติบโตในธุรกิจ Health Tech ตามกลยุทธ์ New S-Curve ที่บริษัทฯ ได้วางแผนไว้ จึงตัดสินใจเข้าลงทุนใน Global Lithotripsy Services Company Limited หรือ GLS ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ ด้าน CT Scan / MRI Scan  และยังเป็นบริษัทย่อยของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก Sodexo จากประเทศฝรั่งเศส อีกทั้งบริษัทนี้ยังมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมากว่า 27 ปี รวมถึงยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ทั้งการเติบโตด้านรายได้ และกำไร รวมถึงกระแสเงินสดที่เป็นบวกตลอดเวลา บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคต อีกทั้งยังสามารถขยายไปในพื้นที่ให้บริการอื่นๆ ที่ยังไม่ได้มีการให้บริการส่วนนี้ได้อีกมาก

ขณะเดียวกันในปี 2566 บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นให้บริการลูกค้าทั้งกลุ่มลูกค้าใหม่ และฐานลูกค้าเก่าอย่างเต็มที่ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และต่อยอดความสำเร็จในการขยายบริการเพิ่มเติมตามแผนกลยุทธ์ New S-Curve และพร้อมสนับสนุนภาคธุรกิจในการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี Digital Transformation ด้วยการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมายกระดับการดำเนินงานขององค์กรต่างๆ ให้สามารถทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น สอดคล้องกับเทรนด์เทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยอาศัยจุดแข็งจากโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพ และเสถียรภาพของโครงข่ายที่เหนือระดับ ทำให้เพิ่มศักยภาพการแข่งขันเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด สร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้า สร้างรายได้เติบโต และคาดว่าผลการดำเนินงานโดยรวมในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

นอกจากนี้ บริษัทได้มีการขยายการลงทุนไปยังกลุ่มธุรกิจใหม่ทางด้านสุขภาพ Health Tech ซึ่งเล็งเห็นถึงอนาคตที่คนจะหันมาใส่ใจสุขภาพ และการดูแลตัวเองมากขึ้น โดยบริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัทใหม่ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและอยู่ในกิจการนี้มากว่า 10 ปี อีกทั้งบริษัทดังกล่าวยังมีรายได้ต่อเนื่องผ่านการทำสัญญากับลูกค้าเป็นรายปี ซึ่งสอดรับกับแผนธุรกิจในการที่จะเพิ่มรายได้ต่อเนื่องของบริษัทอีกด้วย

Back to top button