KAMART ปิดร่วง 4% โบรกหั่นเป้าเหลือ 14.67 บาท หวั่น Q1 รายได้หด-ค่าใช้จ่ายพุ่ง

KAMART ปิดร่วง 4% โบรกหั่นเป้าเหลือ 14.67 บาท มองไตรมาส 1/67 รายได้หด-ค่าใช้จ่ายพุ่ง พ่วงกังวลราคาไดลูท 17% ในวันขึ้นเครื่องหมาย XD หลังเตรียมจ่ายปันผลเป็นหุ้น 5:1 และเงินสด 0.112 บาท/หุ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(28 มี.ค.67) ราคาหุ้นบริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 15.20 บาท ลบ 0.70 บาท หรือ 4.40% ราคาสูงสุด 15.90 บาท ราคาต่ำสุด 15.20 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 136.75 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KS) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(28 มี.ค.67) ว่า หลังจาก KAMART เข้าร่วมงาน Opportunity Day ประจำไตรมาส 4/2566 ผ่านระบบออนไลน์ครั้งแรกตั้งแต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567โดยภาพรวมมองการประชุมเป็นกลาง แม้ว่าผู้บริหารจะมีการคาดการณ์ทางการเงินเชิงรุกในปี 2567-2568

โดยบริษัทฯได้ประมาณการรายได้ปี 2567 ที่ 3.25 พันล้านบาท เติบโต 34%  และปี 2568 ที่  4 พันล้านบาท เติบโต 23% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมตั้งเป้ากำไรสุทธิปี 2567 ที่  900 ล้านบาท และปี 2568 ที่ 1.1 พันล้านบาท สะท้อนอัตรากำไรสุทธิที่ 27.7 และ 27.5% ตามลำดับ

ทั้งนี้ผู้บริหารระบุว่าการคาดการณ์ดังกล่าวไม่ได้รวมการเติบโตของธุรกิจภายนอกจากข้อตกลง M&A ในอนาคต และเป้ารายได้ปี 2567 ผู้บริหารคาดหวังไว้ว่าน่าจะอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท เติบโต 48% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หากรวมข้อตกลง M&A ในอนาคตที่จะประกาศในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 และมี upside จากบริษัท KMGI (JV กับ MGI) นอกจากนี้ผู้บริหารมั่นใจว่ารายได้และกำไรไตรมาส 1/2567 น่าจะเติบโต เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแบรนด์เครื่องสำอางทุกแบนด์ในช่วงโลว์ซีชั่น ซึ่งน่าจะชดเชยผลกระทบของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่สูงขึ้นจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม KS ยังคงมุมมองที่เป็นกลางต่อเป้าเชิงรุกของบริษัทฯ เนื่องจากเชื่อว่าโมเมนต้มของรายได้ที่เติบโตช้าลงในไตรมาส 4/2566 แม้ว่าจะเป็นช่วงไฮซีซั่นก็ตาม เป็นสัญญาณของการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเครื่องสำอางของไทยทั้งจากแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้เชื่อว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร(SG&A)ในระดับสูงของบริษัทฯจะยังคงมีอยู่ต่อไปจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้นเพื่อเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์

ดังนั้นจึงคงมุมมองเชิงอนุรักษ์ยมที่ว่ากำไรไตรมาส 1/2567 มีแนวโน้มลดลงจากการเติบโตของรายได้ที่ลดลงในช่วงโลว์ซีซั่น และ SG&A ในระดับสูง โดยแนะนำ “ถือ” KAMART แต่ลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ลงเป็น 14.67 บาท จาก 16.39 บาท เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไร โดยราคาเป้าหมายอิงกับประมาณการ core EPS ปี 2567 ที่ 0.61 บาท และ trailing PER ที่ 24.2 เท่า หรือเท่ากับ 1SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของบริษัทเครื่องสำอางทั่วโลก ทั้งนี้หลังปันผลหุ้นราคาเป้าหมายหลังไดลูท (dilution) ลดลงเป็น 12.23 บาท หรือ 16.67%

ทั้งนี้บริษัทฯประกาศจ่ายปันผลงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2566 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566  และกำไรสะสมเป็นหุ้นปันผลและเงินสด ซึ่งจ่ายหุ้นเป็นปันผล (หุ้นเดิม : หุ้นปันผล) ในอัตรา 5:1 โดยอัตราการจ่ายปันผลเป็นหุ้น 0.12 บาท ส่วนจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.112 บาท/หุ้น ทั้งนี้อัตราการจ่ายปันผลรวม 0.232 บาท/หุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 พ.ค.67 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พ.ค.67

Back to top button