
ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง “ชาญชัย” แต่สั่งไต่สวนปม “ทักษิณ” นอน รพ.ตำรวจ
ศาลฎีกา ชี้ "ชาญชัย" ไม่มีสิทธิยื่นคำร้อง แต่พบข้อพิรุธ สั่ง 4 หน่วยงานแจงข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน นัดพร้อม 13 มิ.ย. 68 ปม "ทักษิณ" รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 เมษายน 2568) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ นส.3/2568 ตามคำร้องของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้ร้อง ซึ่งขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งศาลเดิมและขอให้ไต่สวนการบังคับโทษจำคุก นายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีหมายเลขแดงต่างๆ
ศาลได้พิจารณาคำร้องและเอกสารท้ายคำร้องแล้ว เห็นว่านายชาญชัย ผู้ร้อง ไม่ใช่คู่ความในคดีหมายเลขแดงดังกล่าว และไม่ใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการบังคับโทษจำคุกจำเลยในคดีเหล่านั้น เมื่อผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในชั้นบังคับตามคำพิพากษา จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลนี้ ด้วยเหตุนี้ ศาลจึงไม่ต้องวินิจฉัยคำขอที่ให้เพิกถอนคำสั่งศาลเดิม
อย่างไรก็ตาม เมื่อความปรากฏต่อศาลว่า อาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลนี้ ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร
คำร้องของนายชาญชัยได้ตั้งประเด็นว่า เหตุใดหน่วยงานรัฐจึงพานายทักษิณออกจากเรือนจำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 โดยไม่ได้ขออนุญาตศาลก่อน ซึ่งทำให้ไม่ได้ถูกจำคุกตามคำพิพากษา โดยเห็นว่ากระบวนการดังกล่าวขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89 และมาตรา 246
แม้ศาลจะเคยมียกคำร้องของนายชาญชัยมาแล้ว 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ด้วยเหตุผลว่า เมื่อศาลออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดไปแล้ว การบังคับโทษและการอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ และปัญหาว่าเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ปฏิบัติชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ไม่ได้อยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาล จึงไม่ต้องไต่สวน
แต่จากความปรากฏล่าสุด ศาลจึงมีคำสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องของนายชาญชัย ให้แก่โจทก์และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่เกี่ยวข้อง และให้โจทก์และจำเลยดังกล่าว แจ้งต่อศาลว่ามีข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้างในคำร้องหรือไม่ อย่างไร พร้อมแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งศาล
นอกจากนี้ ศาลยังได้สั่งให้ส่งสำเนาคำร้องดังกล่าวให้ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร, อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้บุคคลและหน่วยงานดังกล่าวชี้แจงข้อเท็จจริง ประกอบการพิจารณาของศาลว่า การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลย เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาล หรือไม่ อย่างไร
สำหรับนัดพิจารณาครั้ต่องไป ศาลมีคำสั่งให้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น. เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อศาลนี้.