DOD วิ่งแรง 10% กางแผนปี 68 ปั้นรายได้ 800 ล้าน ตุนออเดอร์รอส่งมอบเพียบ

DOD บวกกว่า 10% วางกลยุทธ์เพิ่มกำลังการผลิตและควบคุมต้นทุน ลุยส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าภายใน Q2 และเตรียมเซ็น MOU กับมหาวิทยาลัยชื่อดังยกระดับนวัตกรรมการผลิต หนุนรายได้รวมปี 68 แตะ 800 ล้านบาท เติบโต 24% ปั้นกำไรจ่ายปันผล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 มิ.ย.68) ราคาหุ้น บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ณ เวลา 10:20 น. อยู่ที่ระดับ 1.95 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 10.17% สูงสุดที่ระดับ 2.02 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.77 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.28 ล้านบาท

นายต่อลาภ ไชยเชาวน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DOD ผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า เปิดเผยว่า บริษัทมีการขยายไลน์รูปแบบการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพิ่มในรูปแบบกัมมี่ (Gummies) โดยเครื่องจักรดังกล่าวได้มีการติดตั้งแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2568 ที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซี่งมีกำลังการผลิต 1 แสนชิ้นต่อวัน หรือเฉลี่ยประมาณ 2.5 ล้านชิ้นต่อเดือน ทั้งนี้ในเบื้องต้นบริษัทจะเริ่มทยอยส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าเพื่อจำหน่ายได้ ภายในไตรมาส 2/2568 เป็นต้นไป

สำหรับอาหารเสริมในรูปแบบกัมมี่เป็นที่นิยมกับกลุ่มผู้บริโภคในขณะนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากรับประทานง่ายและมีประโยชน์ต่อการดูแลผิวพรรณและสุขภาพ ดังนั้นมองว่าผลิตภัณฑ์ในรูปแบบดังกล่าวจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด บริษัทฯ มียอดคำสั่งผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริมรูปแบบกัมมี่เข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มลูกค้าเก่า และลูกค้ารายใหม่

ขณะที่ยอดคำสั่งผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบ ชงดื่ม เม็ด เจลลี่ แคปซูล ตอกเม็ดโพรไบโอติค และ ซองกรอกปาก ยังคงมีดีมานด์สูงขึ้น โดยมียอดออเดอร์ที่เข้ามาเพื่อรอส่งมอบให้กับลูกค้าทั้งลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ เฉลี่ยเดือนละ 100 SKUs ส่งผลให้บริษัทมีการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม จากการขับเคลื่อนดังกล่าวส่งผลให้ DOD ตั้งเป้ารายได้จากยอดขายในปี 2568 ที่ระดับประมาณ 800 ล้านบาท เติบโต 24% จากปีก่อน ซึ่งจะมาจากฐานการผลิต (Production Base) ประมาณ 500 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากฐานการค้าปลีก (Retail Base) ภายใต้ บริษัท ออสเวลไลฟ์ จำกัด (AWL) ดำเนินการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ “Auswelllife” นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ที่ระดับ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเร่งขยายฐานของกลุ่มตัวแทนขายที่เพิ่มขึ้น และจากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ มีแผนที่จะจ่ายเงินปันผลให้ได้ในปีนี้

ขณะที่เร็วๆ นี้ บริษัทเตรียมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับมหาวิทยาลัยชื่อดัง เพื่อผนึกกำลังในการร่วมวิจัยส่งเสริมการเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพของนวัตกรรมการผลิตในการสนับสนุนให้วัสดุที่ใช้ในกระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และครอบคลุมการผลิตให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

นายต่อลาภ กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 1/2568 เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และมีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลของ Nielsen ที่ระบุว่าเทรนด์การใส่ใจสุขภาพของคนไทยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดอาหารเสริมมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน

Back to top button