KTIS มั่นใจรายได้ปีนี้สูงกว่า 1.9 หมื่นลบ.ในปี 58

นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS เปิดเผยว่า รายได้ปี 59 จะเติบโตจากปี 58 ที่มีรายได้ 1.94 หมื่นล้านบาท ตามราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันราคาปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 14 เซนต์ต่อปอนด์ จากช่วงปลายปีก่อนอยู่ที่ 10 เซนต์ต่อปอนด์

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาน้ำตาลโลก คือ ค่าเงินของบราซิล หากมีแนวโน้มอ่อนค่าลงราคาน้ำตาลก็จะลดลงตามไปด้วย ในขณะเดียวกันช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลงทำให้บราซิลผลิตเอทานอลลดลงทำให้ผลผลิตน้ำตาลสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามในอุปทานในตลาดโลกลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดเริ่มเข้าสู่จุดสมดุล ราคาน้ำตาลจึงค่อยๆขยับขึ้น

ในปีนี้บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานจะเพิ่มเป็น 25% จากปัจจุบันที่ 20% โดยสาเหตุที่บริษัทต้องการเพิ่มสัดส่วนรายได้ในธุรกิจดังกล่าวเพื่อทำให้รายได้รวมมีเสถียรภาพมากขึ้น เพราะธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจน้ำตาลที่มีสัดส่วนรายได้สูงถึง 75-80% ค่อนข้างผันผวนไปตามราคาน้ำตาล

ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงไฟฟ้ชีวมวล 2 แห่ง กำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 2/59 และไตรมาส 3/59 โดยโรงไฟฟ้าแห่งที่ 1 ตั้งอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ส่วนแห่งที่ 2 อยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยหลังจากที่ทั้ง 2 โรงก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้มีกำลังการผลิตรวมเป็น 160 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ การสร้างโรงไฟฟ้าของบริษัทไม่เพียงแต่สร้างรายได้ในการขายไฟฟ้า แต่ยังเป็นการลดภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าปีละ 40-50 ล้านบาท จากที่มีภาระการจ่ายค่าไฟฟ้าที่มีปีละกว่า 100 ล้านบาท

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร 1 ราย ซึ่งประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน เพื่อลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมน้ำตาล แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้