SET ปิดลบ 19 จุด เซ่นคลิปหลุด “นายก” – ปรับ ครม. ทำอนาคต “รัฐบาล” สั่นคลอน

SET ปิดวันนี้ลดลง 19 ถูกกดดันจากปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์การเมืองเกิดความไม่แน่นอนจากความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล และคลิปหลุดเสียง “นายกอิ๊งค์” พูดคุยกับ “ฮุนเซน” จนเกิดกระแสลบต่อรัฐบาลและอนาคตที่สั่นคลอน ด้าน บล.เกียรตินาคินภัทร เปิด 3 โมเดลการเมืองไทยหลังจากนี้


ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ (18 มิ.ย. 68) ปรับลงอย่างหนักในช่วงท้ายตลาดไปอยู่ที่ 1,094.58 จุด ลดลง 19.00 จุด (-1.71%) มูลค่าการซื้อขาย 36,048.37 ล้านบาท โดย บล.พาย วิเคราะห์ว่าว่า ตลาดหุ้นไทยถูกแรงกดดันหลักจากปัจจัยในประเทศ ทั้งเศรษฐกิจที่ยังไม่ค่อยดี แม้ว่าตัวเลขส่งออกจะดีกว่าคาด แต่มองว่าเป็นการขยายตัวดีเพียงชั่วคราว ประกอบกับ การเมืองในประเทศเพิ่มอุณหภูมึร้อนแรง หลังมีข่าวความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล สืบเนื่องจากการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) สร้างความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาล

รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมไปถึงคลิปเสียงของ นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบอย่างหนักต่อตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลกับการแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดย บริษัท หลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุว่า จากกรณีคลิปเสียงที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล  มี 3 กรณีที่จะเป็นไปได้จากนี้กับการเมืองไทย ได้แก่

1.รัฐสภาลงมติไม่ไว้วางใจ ซึ่งรัฐสภากำลังจะเปิดประชุมสมัยแรกของปีที่ 3

2.ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญว่านายกรัฐมนตรีขาดจริยธรรม ส่วนความผิดฐานกบฏจะเป็นคดีอาญาแยกออกไปอีกเรื่องหนึ่ง

3.ยุบสภา ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่นายกรัฐมนตรีจะเลือกยุบสภาก่อน หากกระแสเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้สถานการณ์นำไปสู่การรัฐประหาร

ทั้งนี้ ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) อาจจะไม่ได้มีน้ำหนักมากแล้วในตอนนี้ แต่ปัจจุบันหากไม่รวมพรรคภูมิใจไทย รัฐบาลมีเสียงประมาณ 260 เสียง ซึ่งมากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาประมาณ 10 เสียง

สำหรับการลงคะแนนเรื่องต่อไปคือ ร่างกฎหมาย “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ในวาระแรก ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาในเดือนกรกฎาคม และร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในวาระ 2 และ 3 ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนสิงหาคม

ด้าน KKPS ระบุเพิ่มเติมว่า ในกรณีที่มีการยุบสภา จะส่งผลให้กระบวนการจัดทำงบประมาณประจำปี 2569 ล่าช้าออกไป คล้ายกับสถานการณ์ในปี 2566 ที่งบประมาณประสบปัญหาไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามกรอบเวลาเดิม

Back to top button