
SJWD วิ่ง 4% โบรกอัพกำไร 3 ปีโตเฉลี่ย 26% เคาะเป้า 11 บาท
SJWD บวก 4% โบรกมองครึ่งปีหลังมีปัจจัยหนุนธุรกิจยานยนต์ ห้องเย็น โครงการ Longson และขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT พร้อมปรับประมาณการกำไรปี 68-70 โตเฉลี่ย 26% แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ให้ราคาเป้าหมาย 11 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (21 ส.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD ณ เวลา 10:27 น. อยู่ที่ระดับ 10.10 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 4.12% สูงสุดที่ระดับ 10.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 9.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21.13 ล้านบาท
บล.กรุงศรี ระบุผ่านบทวิเคราะห์ว่ามีมุมมองเชิงบวก (Positive) ต่อข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์ SJWD โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นปัจจัยหนุน (Catalyst) ระยะสั้น ได้แก่ 1.) การฟื้นตัวของธุรกิจยานยนต์และห้องเย็น 2.) การทดลองเปิดโครงการ Longson ในไตรมาส 3 ปี 2568 3.) การขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) อย่างน้อย 1 โครงการ และ 4.) โอกาสการทำการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) เพิ่มเติม
ทั้งนี้ มีการปรับประมาณการกำไรปี 2568–2570 ขึ้นเฉลี่ย 26% สะท้อนกำไรปกติครึ่งแรกของปี 2568 ที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงแนวโน้มระยะสั้นที่มีทิศทางบวกเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรปกติในไตรมาส 3 ปี 2568 จะยังคงลดลงทั้งเมื่อเทียบกับปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยจะมีรายได้จากการให้บริการขนส่งปิโตรเคมีแก่ Longson และการปรับเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์ (Ramp-up Occupancy Rate) ในธุรกิจห้องเย็น มาช่วยลดผลกระทบจาก ปัจจัยคือ 1.) ฐานที่สูงของธุรกิจขนส่งสินค้า (Freight) และส่วนแบ่งกำไรจาก PPSP ที่เคยมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดิน 26 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2567
2.) ผลของการผ่านช่วงเร่งนำเข้า-ส่งออก และ 3.) ฤดูกาลต่ำ (Low Season) ของธุรกิจขนส่งวัสดุก่อสร้าง พร้อมคาดว่ากำไรในปี 2569 จะกลับมาเติบโตจากฐานกำไรก่อนการควบรวมกิจการในปี 2566 ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาทอีกครั้ง ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์ ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อเก็งกำไร” ให้ราคาเป้าหมายปี 2568 อยู่ที่ 11.00 บาท
บล.ดาโอ คงแนะนำซื้อ SJWD ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 13.20 บาท จากเดิม 11.30 บาท โดยมองบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ดังนี้ 1. ผลกระทบจากประเด็นกัมพูชายังจำกัด โดยจะกระทบกับธุรกิจการขนส่ง cross border ผ่านชายแดน แต่ปรับมาเป็นขนส่งทางเรือแทนและได้ลูกค้าใหม่เพิ่มมาชดเชย
2. ธุรกิจขนส่งและธุรกิจต่างประเทศ (Overseas) ในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 คาดว่าจะยังเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และทรงตัวใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก 2568 จากการได้งานใหม่เพิ่มเติม 3. ธุรกิจห้องเย็นจะฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาส 3/2568 เนื่องจากคลังห้องเย็นใหม่ที่เปิดในไตรมาส 2/2568 ปัจจุบันอัตราการใช้พื้นที่ (Occupancy Rate) ทยอยเพิ่มขึ้นแล้ว และ 4.จะมีการขายคลังสินค้า ALPHA 1 แห่ง เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) AIMRT ในไตรมาส 3/2568 โดยคาดว่าจะมีการบันทึกกำไรระดับหลายสิบล้านบาท
ทั้งนี้ฝ่ายนักวิเคราะห์ ได้ปรับประมาณการกำไรของบริษัท SJWD สำหรับปี 2568 ขึ้น 10% เป็น 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 ที่เติบโตดีกว่าที่คาดไว้ โดยกำไรปกติครึ่งปีแรกคิดเป็น 54% ของทั้งปี
สำหรับครึ่งปีหลัง 2568 คาดว่ากำไรยังเติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจขนส่งและธุรกิจต่างประเทศที่ยังแข็งแกร่ง ขณะที่ธุรกิจห้องเย็นจะทยอยฟื้นตัว และคลังสินค้าทั่วไปจะมีการเปิดคลังใหม่ในไตรมาสสี่ 2568 ซึ่งมีลูกค้าจองพื้นที่ล่วงหน้าจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกจากการลดค่าใช้จ่ายในการบริหารงานและค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ดีขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนราคาหุ้น outperform ตลาดหลักทรัพย์ไทย 20% ในช่วง 1 เดือน และ 6% ในช่วง 3 เดือน จากกำไรปกติในไตรมาส 1–2/2568 ที่ฟื้นตัวดี เราจึงยังแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากคาดว่ากำไรปกติปี 2568 จะกลับมาเติบโตโดดเด่น พร้อม upside จากโอกาสขยายการลงทุนใหม่ ด้านมูลค่าเหมาะสม ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่อัตราส่วนราคาต่อกำไรปกติปี 2565–2568 (core PER) 14.7 เท่า คิดเป็น -1.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี (PBV) ต่ำเพียง 0.7 เท่า รวมถึงมีโครงการซื้อหุ้นคืน โดยล่าสุดซื้อหุ้นคืนแล้วคิดเป็น 75% ของโครงการ ซึ่งจะครบกำหนดซื้อหุ้นคืนในวันที่ 22 ตุลาคม 2568