รู้ก่อนเทรด! ATLAS เรือธงธุรกิจ “ก๊าซ LPG” ครบวงจร เข้าตลาด SET 20 ต.ค.นี้

บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ATLAS เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค โดยบริษัทดำเนินธุรกิจพลังงานครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การจัดเก็บ การขนส่ง และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงและระบบบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ

นายสุวัชชัย พิทักษ์วงศาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ ATLAS เปิดเผยว่า บริษัทมีจุดแข็งด้านระบบโลจิสติกส์และการบริหารจัดการคลังสินค้า เก็บซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจพลังงาน โดยบริษัทดำเนินการขนส่งทั้งหมดด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การควบคุมและบริหารจัดการรถบรรทุก การบำรุงรักษา ไปจนถึงการวางแผนเส้นทางการขนส่งอย่างเป็นระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและควบคุมต้นทุนได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังสามารถจัดรอบการขนส่งให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด โดยเน้นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างเต็มที่ ลดเวลาว่างของรถบรรทุก และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น อันเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ATLAS ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 418.42 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 29.50% ของทุนชำระแล้วทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายที่ราคา 3.00 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าการระดมทุนทั้งสิ้น 1,255.26 ล้านบาท

บริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ตามวัตถุประสงค์ดังนี้  1. การลงทุนเพื่อเพิ่มโรงบรรจุก๊าซหุงต้มและร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้มเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจีในภาคครัวเรือน 99.90 ล้านบาท 2. การลงทุนเพื่อเพิ่มถังบรรจุก๊าซหุงต้มเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจีในภาคครัวเรือน 162.20 ล้านบาท 3. การลงทุนเพื่อเพิ่มสถานีบริการก๊าซแอลพีจีรองรับการเติบโตของธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจีในภาคขนส่ง 241.60 ล้านบาท

4.การลงทุนในโครงการ “PT Auto Transform” เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้ก๊าซแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิง 69.30 ล้านบาท 5. การลงทุนเพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมและลูกค้ากลุ่มพาณิชยกรรม 5.60 ล้านบาท 6. การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง 400 ล้านบาท และ 7. การใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 220.70 ล้านบาท รวมทั้งหมด 1,199.30 ล้านบาท

ส่วนภาพรวมธุรกิจ นายสุวัชชัย กล่าวว่า บริษัทมีโครงสร้างรายได้หลัก 4 ประเภท ได้แก่ รายได้จากการจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) รายได้จากการบริหารจัดการสถานีบริการน้ำมัน รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณา และรายได้จากบัตรสมาชิกและบริการเสริมอื่น ๆ โดยในส่วนของ กำไรสุทธิของบริษัท ประมาณ 60% มาจากธุรกิจสื่อโฆษณา ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่เติบโตสูงและสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องให้บริษัท

สำหรับรายได้จากการจำหน่ายก๊าซ LPG แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มครัวเรือน และกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ปัจจุบันบริษัทมีสถานีบริการพลังงานประมาณ 244 สาขา ในจำนวนนี้ 177 สาขาเป็นสถานี “ปั๊มมิตร” ที่ให้บริการทั้งน้ำมันและก๊าซ LPG เดิมบริษัทเป็นผู้จำหน่ายน้ำมันโดยตรง แต่เมื่อมีการปรับโครงสร้างธุรกิจให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล จึงเปลี่ยนรูปแบบเป็น “รับจ้างบริหารจัดการสถานีบริการ” โดยบริษัทได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายน้ำมันภายใต้แบรนด์ PTG พร้อมรับค่าบริหารเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง

ขณะที่รายได้จากสื่อโฆษณา ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจใหม่ของ ATLAS เริ่มต้นในช่วงปี 2562 โดยพัฒนาแนวคิดจากโครงการ “แท็กซี่ทรานส์ฟอร์ม” (Taxi Transform) เพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่แท็กซี่ที่ได้รับผลกระทบในช่วงโควิด-19 ให้สามารถปรับเปลี่ยนจากรถที่ใช้เชื้อเพลิง NGV มาใช้ก๊าซ LPG ซึ่งประหยัดกว่าและให้ระยะทางต่อการเติมหนึ่งถังสูงกว่าเดิม บริษัทได้ให้สิทธิ์ส่วนลดการเติมก๊าซแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ พร้อมติดตั้งสติกเกอร์โฆษณาที่ท้ายรถแท็กซี่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาธุรกิจ “สื่อโฆษณาเคลื่อนที่” ของบริษัท

แนวคิดดังกล่าวต่อยอดไปสู่ระบบ “Access Monetization” หรือการสร้างมูลค่าจากจุดสัมผัสลูกค้า (Touchpoint) ที่มีอยู่ในเครือข่าย ATLAS ทั้งบนรถแท็กซี่ รถยนต์ส่วนบุคคล และในพื้นที่สถานีบริการ โดยบริษัทจำหน่ายพื้นที่โฆษณาบนรถแท็กซี่และในสถานีบริการ เช่น ป้ายหลังคา ป้ายห้องน้ำ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมถึงจุดรอเติมน้ำมันและแก๊ส ซึ่งทั้งหมดสร้างรายได้เสริมอย่างต่อเนื่องให้บริษัท

นอกจากนี้ ATLAS ยังนำระบบสะสมคะแนน (Loyalty Program) มาเชื่อมโยงกับธุรกิจสื่อโฆษณา โดยให้สิทธิ์ส่วนลดแก่ผู้ขับแท็กซี่และลูกค้าที่ใช้บริการเติมน้ำมันหรือก๊าซภายในเครือข่าย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้บริการซ้ำและสร้างฐานข้อมูลลูกค้า (Big Data) ที่สามารถนำไปต่อยอดเชิงธุรกิจในอนาคต

ส่วนธุรกิจแก๊สครัวเรือน (LPG ภาคครัวเรือน) บริษัทมีร้านจำหน่ายกว่า 400 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นจำนวนมากในอุตสาหกรรม โดยร้านค้าทั้งหมดอยู่ในสถานีบริการน้ำมันของเครือ PTG เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทดำเนินการขนส่งและจัดจำหน่ายด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ตั้งแต่คลังเก็บก๊าซ โรงบรรจุ ไปจนถึงร้านค้าปลีก ทำให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพและต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีมาร์จิ้นเฉลี่ยอยู่ในระดับราว 14–15%

นายสุวัชชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดก๊าซ LPG ภาคยานยนต์ราว 31.1% ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และธุรกิจสื่อโฆษณาซึ่งเริ่มจากรถแท็กซี่ได้ขยายสู่รถยนต์ส่วนบุคคลภายใต้แนวคิด “Auto Transform” โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถเบนซินทั่วไปเข้าร่วมโครงการเปลี่ยนเชื้อเพลิงเป็น LPG พร้อมรับสิทธิ์ร่วมติดตั้งสื่อโฆษณาในเครือ ATLAS เพื่อสร้างรายได้เสริมและส่วนลดค่าใช้บริการ

นายอมร พิริยะแพทย์สม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ระบุว่า ATLAS มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมั่นคงจากโครงสร้างธุรกิจพลังงานครบวงจรและห่วงโซ่อุปทานที่บริหารจัดการเอง ทำให้ควบคุมต้นทุนและความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่เงินทุนจากการเสนอขาย IPO จะช่วยขยายฐานธุรกิจและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

ทั้งนี้ ATLAS มีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง ย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าในปี 2565 มีรายได้จากการขาย 5,825.05 ล้านบาท ต่อมาในปี 2566 มีรายได้จากการขาย 8,440.57 ล้านบาท ส่วนในปี 2567 มีรายได้จากการขาย 9,710.48 ล้านบาท และงวด 6เดือนแรกของปี 2568 สามารถทำรายได้จากการขายแล้ว 5,203.62 ล้านบาท

สำหรับนโยบายการจ่ายเงินปันผล บริษัทกำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและทุนสำรองตามกฎหมาย โดยจะพิจารณาตามผลการดำเนินงานและความจำเป็นในการลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคต