กูรูแนะจัดพอร์ตเดือนเมษา-คัด 8 หุ้นเด่นเก็งงบฯ Q1/59 สวย

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์(1 เม.ย.)  ฝ่ายวิจัยคาดว่าตลาดหุ้นไทยในเดือน เม.ย. จะแกว่งตัวและมีความผันผวนสูงขึ้น เนื่องจากแม้ว่าทิศทางของทุนต่างชาติยังดูดี (หลังประธานเฟดส่งสัญญาณชัดเจนเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวังมาก) แต่ด้วยมูลค่าหุ้น (valuations) ของตลาดหุ้นที่ค่อนข้างสูง และการที่ยังไม่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นน่าจะมีทางขึ้นที่จำกัด

โดยพอร์ตหุ้นแนะนำเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 5.8% ใกล้เคียงกับตลาดหุ้นโดยรวมที่ปรับขึ้น 5.7%   ทั้งนี้พอร์ตจำลองไม่โดดเด่นกว่าดัชนีฯ เนื่องจากตัวดัชนีฯ ปรับขึ้นแข็งแกร่งกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ จากเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทย ผนวกกับหุ้นกลุ่มใหญ่หลายกลุ่มปรับขึ้นแข็งแกร่ง ทั้งนี้ในพอร์ตหุ้นแนะนำนั้น พบว่าหุ้น AAV* และ BDMS* ให้ผลตอบแทนโดดเด่น (ปรับขึ้น 13.7% และ 8.3% ตามลำดับ) ส่วนหุ้นที่มีผลตอบแทนต่ำกว่าคาดได้แก่ GL* ซึ่งราคาหุ้นลดลง 2.4% ทั้งนี้นับจากจัดตั้งพอร์ตในปี 2555 ผลตอบแทนสะสมอยู่ที่ 110.5% เทียบกับ SET Index ซึ่งปรับขึ้นมา 40.1%

 

มุมมองตลาดหุ้น เม.ย. แกว่งตัวผันผวน เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่ค่อนข้างสูง อาจหักล้างปัจจัยบวกจากเงินทุนไหลเข้าที่ยังแข็งแกร่ง

ฝ่ายวิจัยคาดว่าตลาดหุ้นไทยในเดือน เม.ย. จะแกว่งตัวและมีความผันผวนสูงขึ้น เนื่องจากแม้ว่าทิศทางของทุนต่างชาติยังดูดี (หลังประธานเฟดส่งสัญญาณชัดเจนเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวังมาก) แต่ด้วยมูลค่าหุ้น (valuations) ของตลาดหุ้นที่ค่อนข้างสูง และการที่ยังไม่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นน่าจะมีทางขึ้นที่จำกัด ทั้งนี้ ณ ราคาปิดสิ้นเดือน มี.ค. ดัชนีฯ เทรดที่ forward PE59 ที่ 15 เท่า และที่ current PE band สูงกว่า 18 เท่า ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ควรติดตามในเดือนนี้ ได้แก่ i) ผลประกอบการไตรมาส 1/2559 ของหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงิน ii) ผลการประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ ในวันที่ 26-27 เม.ย. ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดจะปรับมุมมองต่อเศรษฐกิจและนโยบายการเงินหรือไม่ ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ PE band เราประเมินกรอบการแกว่งตัวของดัชนีฯ ในเดือนนี้ที่ 1,360 ถึง 1,440 จุด 

 

พอร์ตหุ้นแนะนำเดือน เม.ย. เน้นหุ้นเชื่อมโยงมาตรการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากรัฐบาล 

ด้วยมุมมองดังกล่าวข้างต้น จึงแนะนำหุ้นเด่นในเดือน เม.ย. เป็นหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นการลงทุนเฉพาะตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เชื่อมโยงกับมาตรการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล รวมทั้งหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2559 โดดเด่น เป็นต้น ทั้งนี้หุ้นแนะนำมีด้วยกัน 8 ตัว อันได้แก่ CK*, UNIQ*, BEM*, BDMS*, LPH, RS*, WORK* และ KTC*.