ไปไม่รอด! Ensogo ปิดกิจการในอาเซียน

Ensogo ประกาศปิดกิจการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซีอีโอลาออกพร้อมเลิกจ้างพนักงาน อ้างตัดสินใจปิดร้านเพราะเตรียมสำรองเงินหากมีโอกาสระดมเงินลงทุนใหม่ในอนาคต


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกาศปิดกิจการของ Ensogo นี้ถูกเปิดเผยเพราะแถลงการณ์โดยสำนักงานออสเตรเลีย ซึ่งระบุว่า Ensogo Australia จะหยุดสนับสนุนหน่วยธุรกิจมาร์เก็ตเพลสและการขายที่เกิดขึ้นจาก Ensogo สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากกิจการเหล่านี้จะปิดตัว และพนักงานทุกรายได้รับแจ้งข้อมูลแล้ว ส่วนการสื่อสารถึงลูกค้าจะเริ่มขึ้นในไม่กี่วันนับจากนี้

เบื้องต้น ซีอีโอผู้ร่วมก่อตั้ง Ensogo อย่างคริส มาร์ซาเลก (Kris Marszalek) ลาออกจากตำแหน่งแล้ว ทั้งหมดนี้ Ensogo ให้เหตุผลว่าการตัดสินใจปิดกิจการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกิดขึ้นเพื่อสำรองเงินสดของบริษัทไว้หากกรณีมีการระดมเงินทุนในอนาคต

ขณะเดียวกัน Ensogo ส่งเอกสารแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย Australian Securities Exchange เพื่อขอระงับการซื้อขายหุ้นต่อเนื่องหลังของดซื้อขายหุ้นชั่วคราวเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นมาตรการที่ Ensogo ต้องทำเพราะราคาหุ้นตกต่ำเหลือเพียง 0.5 เหรียญออสเตรเลีย

จากที่เคยทำตลาดในชื่อไอบาย (iBuy) ผู้ให้บริการดีลรายวันอย่าง Ensogo มีเครือข่ายให้บริการในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย ผู้เริ่มก่อตั้งคือแพทริก โกรฟ (Patrick Grove) แห่งบริษัทแคทชากรุ้ป (Catcha Group) ต้นสังกัดบริการซื้อขายรถและอสังหาริมทรัยพ์ออนไลน์อย่างไอพร็อบเพอร์ตี้ (iProperty) และไอคาร์ (iCar)

ในภาพรวม Ensogo ถูกมองว่ามีคู่แข่งสำคัญคือลาซาดา (Lazada) ซึ่งเจ้าของปัจจุบันคืออาลีบาบา (Alibaba) ของจีน จุดหนึ่งเป็นเพราะว่าคู่แข่งโดยตรงอย่างกรุปปอง (Groupon) นั้นปิดกิจการล่วงหน้าไปแล้ว โดยในประเทศไทย Ensogo ยังเปิดให้บริการตามปกติและยังไม่มีการชี้แจงต่อลูกค้าที่ซื้อดีลไปแล้วยังไม่ได้ใช้งาน

ดีลรายวันหรือ Daily deal นั้นเป็นรูปแบบอีคอมเมิร์ซหนึ่งที่เคยได้รับความนิยมอย่างมาก เว็บไซต์ Daily deal จะไม่ได้ขายสินค้าเอง แต่จำหน่ายคูปองโปรโมชันลดราคาพิเศษสำหรับสินค้า บริการ ท่องเที่ยว และร้านอาหาร โดยวางหมากดึงดูดนักชอปด้วยกรอบเวลาที่บีบให้ต้องตัดสินใจซื้อภายในช่วงเวลาจำกัด (เช่น 24 หรือ 72 ชั่วโมง) ทั้งหมดนี้ทำให้ลูกค้าได้เลือกโปรโมชั่นที่พึงพอใจ พร้อมกับร้านค้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ร้านโดยไม่ต้องลงทุนสูงเพื่อลงโฆษณา ขณะที่ตัวกลางอย่าง Ensogo ก็จะได้รับส่วนแบ่งจากการขายคูปอง

อย่างไรก็ตาม ปัญหากลับเกิดขึ้นเมื่อร้านค้าเริ่มรู้สึกถึงความไม่คุ้มค่ากับการให้ส่วนลดในดีล เมื่อร้านลดคุณภาพบริการลง ผู้บริโภคจึงไม่พอใจและไม่ซื้อดีลอย่างเคย ซึ่งเว็บไซต์ผู้ขายดีลจึงได้รับผลกระทบอย่างเป็นลูกโซ่

ก่อนหน้านี้ Ensogo ตัดสินใจปิดสำนักงานหลายแห่งเพื่อรวมศูนย์เข้าที่สิงคโปร์ ก่อนประกาศเลิกจ้างพนักงานเหลือไม่ถึง 300 คนจาก 600 คนตั้งแต่ต้นปีนี้  

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียพบว่า Ensogo มีรายรับรวมจากลูกค้าราว 16.8 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ (สิ้นสุด 31 มีนาคม) ขณะที่กระแสเงินสดรวมคือ 13.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เม็ดเงินที่ถือว่าน้อยเกินไปนี้สะท้อนถึงค่าใช้จ่ายที่ Ensogo มี จนอาจติดตัวแดงขาดทุนในปีนี้

Back to top button