สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ

ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,458.19 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 11.35 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 5.1 หมื่นล้านบาท


2559 ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,458.19 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 11.35 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 5.1 หมื่นล้านบาท

 *  ปรากฏว่า เมื่อวานต่างชาติยังคงเดินหน้านำทัพเข้าซื้อหุ้นสุทธิไปท่วมท้น 4,164 ล้านบาท ตามด้วยสถาบันที่เข้าเก็บ 518 ล้านบาท ส่วนขาเทขายสุทธิบัญชีบริษัทหลักทรัพย์สาดแรง 2,804 ล้านบาท และรายย่อยที่ร่วมเทขาย 1,878 ล้านบาท

 *  เริ่มกันด้วยหุ้นแรก BEM ล่าสุดวิ่งบวกหวนกลับมาทำราคายืนอยู่ที่ระดับ 7 บาท ได้อีกรอบสักที  

*  หลังจากที่ผ่านมาเจอแรงขายลดความเสี่ยงกระหน่ำ ให้ราคาถอยกราวรูดจากแถว 8 บาท จนหลุดต่ำ 7 บาท ภายในแค่ 10 วันทำการเท่านั้น

 *  กลับมาตั้งหลักได้นับเป็นเรื่องเยี่ยม เพราะกำลังเตรียมได้รับข่าวดีทันที  

*  เนื่องจากช่วงสัปดาห์หน้า ทางรฟม.เตรียมเจรจา BEM กรณีรับงานเดินรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยายกันแล้วนั่นเอง  

*  ย้ายฝั่งกันมาที่กลุ่มหุ้นเกษตร-อาหาร มีอยู่ 2 หุ้นที่กำลังได้รับข่าวหนุนทั้งเชิงระยะสั้น-ระยะยาว นั่นคือ CPFTFG  

*  ประเด็นหลักที่น่าจับตา คือ กรณีราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง  

*  แน่นอนต้นทุนสำคัญอย่างวัตถุดิบอาหารลดลง จะกลายเป็นปัจจัยหนุนโดยตรงในเชิงเซนติเมนท์หุ้น CPF-TFG ให้ทำราคาตีปีกโบยบินทันที  

*  ส่วนในเชิงระยะยาวผลบวกจากต้นทุนที่ลดลงจะสะท้อนให้ผ่านตัวกำไรในช่วงปลายปีนี้ และจะหนุนส่งกำไรแบบเต็มสูบในงบปี 60  

*  ถ้าใครชอบสไตล์หุ้นพื้นฐานมั่นคง เป็นหุ้นที่มีทั้งต่างชาติและสถาบันร่วมถือหุ้นกดออเดอร์ไปที่หุ้น CPF ได้เลย ราคาเป้าหมายตลาดให้ไว้ 40 บาท  

*  แต่ถ้าเน้นสไตล์เทิร์นอะราวด์แรง กำไรโตบานพลิกโฉมหน้าบริษัทต้อง TFG เท่านั้น ราคาเป้าหมายสวยไม่เบาเกือบ 6 บาท  

*  หุ้น LPH ราคาหุ้นเริ่มกลับมาฟื้นตัว และถือเป็นอีกหนึ่งหุ้นไซส์กลางกลุ่มโรงพยาบาลที่มีปัจบวกถึง 3 เด้ง  

*  เด้งแรกพื้นฐานก็คือทิศทางผลการดำเนินงานที่เติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง สะท้อนได้งวดครึ่งปีแรกกวาดกำไรไปแล้ว 80 ล้านบาท อัตราทำกำไรสุทธิพุ่ง 11%  

*  เด้งสองราคาเป้าหมายที่ยังมีอัพไซด์บาน 30% เพราะโบรกฯให้ราคาเป้าหมายไว้ตั้งโน่น 11 บาท

 *  และเด้งสามกรณีแผนเข้าซื้อกิจการเพิ่ม เพราะถือเป็นหนึ่งในตัวเก็งที่จะได้เข้าซื้อโรงพยาบาลเอกชนเพิ่ม 1-2 แห่ง เพื่อดันกำไรโตก้าวกระโดดนั่นเอง  

*  หุ้น WHA น่าหาจังหวะเข้าทยอยสะสม เพราะตอนนี้ราคาหุ้นต่ำกว่าพื้นฐานเป็นอย่างมาก

* ที่สำคัญราคาหุ้นยังฟื้นตัวช้ากว่าใครเพื่อนขนาดตลาดหุ้นไทยบวกติดต่อกันได้ 2 วันทำการ แต่ WHA ทำราคาหุ้นฟื้นมาแค่ 2% เท่านั้น ขณะที่ชาวบ้านเขาดีดบวกไปโน่นแล้ว 6-7%  

*  ดังนั้น เป็นโอกาสงามที่จะเข้าสะสมหุ้น เพราะถือเป็นอีกบริษัทที่มีเทรนด์งบครึ่งปีหลังกำไรงดงามและยังมีสตอรี่บวกหนุนรายทางเพียบ ราคาเป้าหมายดีดไว้ 4 บาท  

*  ปิดท้ายด้วยหุ้น ILINK-ITEL สองดูโอหุ้นแม่-ลูก สุดน่าสนใจ  

*  เริ่มจากทางฝั่งหุ้นแม่ ILINK นี่ภายในรอบ 2 วันประกาศข่าวดีตลอดไม่หยุด เมื่อวันอังคารเพิ่งคว้างานใหม่ไป 300 ล้านบาท และล่าสุดเมื่อวานฟาดงานใหม่เพิ่มได้อีก500 กว่าล้านบาท

 *  เท่ากับภายในรอบ 2 วัน ILINK ได้งานไปรวมกว่า 800 ล้านบาท แบ็กล็อกพุ่งกระฉูดทันที ใครชอบหุ้นสไตล์พื้นฐานมั่นคง-อยู่ในช่วงการเติบโตจัดไปไม่ต้องรอช้า

 *  ส่วนตัวลูก ITEL เข้าเทรดวันแรกฟอร์มสวยงดงาม ทำราคาเปิดบวก 7.50 บาท สูงกว่า IPO ที่เสนอขาย 5.20 บาท  

*  จากนั้นรักษาฐานราคาไว้เหนือจองต่อเนื่อง พร้อมกับทำจุดสูงสุดของวันที่ 8.35 บาท และปิดตลาดที่ 8.30 บาท ปรับเพิ่มขึ้นเฉียด 60%  

*  เรียกได้ว่าคนที่ได้รับหุ้น IPO ไป พาเหรดรับกำไรบานแบบท่วมท้น ส่วนใครที่แอบเหล่ให้ความสนใจอยู่ ไม่ตกขบวนแต่อย่างใด เพราะทั้ง ITEL-ILINK เขาเป็นสไตล์ ถือรับการเติบโตแบบยาวๆ อยู่แล้ว  * 

X
Back to top button