AOT กับสุวรรณภูมิลูบคมตลาดทุน
มีท่าอากาศยาน หรือสนามบินที่อยู่ภายใต้การบริหารของ บมจ.ท่าอากาศยาน (AOT) อยู่ 5 แห่ง
ธนะชัย ณ นคร
มีท่าอากาศยาน หรือสนามบินที่อยู่ภายใต้การบริหารของ บมจ.ท่าอากาศยาน (AOT) อยู่ 5 แห่ง
1.สนามบินสุวรรณภูมิ 2.สนามบินเชียงใหม่ 3.สนามบินภูเก็ต 4.สนามบินหาดใหญ่ และ 5.สนามบินดอนเมือง
แน่นอนว่ารายได้หลักของ AOT อยู่ที่สุวรรณภูมิ
และเมื่อรายได้หลักอยู่ที่สนามบินแห่งนี้ ปัญหาหลักๆ ของ AOT ก็อยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน
ปัญหาล่าสุดที่ Mr.Koki Aki ชาวญี่ปุ่น ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คเกี่ยวกับปัญหาแท็กซี่มิเตอร์ของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่คิดราคาแบบเหมาจ่ายโดยไม่กดมิเตอร์
ซึ่งเรื่องแบบนี้ ก็ยังคงเป็นปัญหาคาราคาซังของสนามบินแห่งนี้
เชื่อว่ากรณีนี้ไม่ใช่ปัญหารายสุดท้าย
และก็เชื่อว่า ปัญหาจะเกิดขึ้นอีก
และที่ผ่านมานั้นก็เชื่ออีกว่า ปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นกับชาวญี่ปุ่นที่เคยโพสต์ข้อความดังกล่าวเท่านั้น
ทว่า ยังเกิดกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอื่นๆ อีกจำนวนมาก เพียงแต่ว่าไม่มีใครอยากมีปัญหา หรือปล่อยให้ผ่านๆ ไป เพราะขี้เกียจเอาเรื่อง
ส่วนตัวผมเองนั้น ก็เคยประสบกับปัญหาในทำนองเดียวกัน
แท็กซี่สุวรรณภูมิมักไม่ชอบวิ่งระยะที่เขามองแล้วว่า มันใกล้เกินไป เช่น ผมเรียกมาย่านรัชดา-สุทธิสาร ก็มักจะพบกับโชเฟอร์ที่แสดงท่าทีไม่ค่อยพอใจทุกครั้ง
ล่าสุดเดินทางกลับจากประเทศเนปาล
นั่งมากับเพื่อนผู้สื่อข่าวอีก 1 คน
เพื่อนคนดังกล่าวขอลงระหว่างทาง ซึ่งเป็นทางที่แท็กซี่จะต้องวิ่งผ่านอยู่แล้ว
แต่คนขับแท็กซี่ขอเรียกเก็บเงินเพิ่มอีก 50 บาท เพราะบอกว่าเป็นกฎของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่หากมีการลงมากกว่า 1 จุด ก็จะคิดเป็นสองจุด และคิดเพิ่มอีก 50 บาท
ภายหลังได้สอบถามไปยัง Call Center ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีกฎนี้อยู่
มีเพื่อนผู้สื่อข่าวต้องการทำข่าวนี้เหมือนกัน แต่ผมต้องการให้เรื่องมันผ่านๆ ไป ไม่อยากเอาเรื่องอะไรมาก
เพื่อนนักข่าวอีกคนเล่าว่า มักเจอกับปัญหาแท็กซี่บ่นเช่นกัน เวลาเรียกไปในระยะทางที่ไม่ไกลจากสนามบินมากนัก แต่เขาจะแก้ปัญหา ด้วยการบอกไปว่า เดี๋ยวผมจ่ายพิเศษให้
และนั่นก็ทำให้โชเฟอร์แท็กซี่หยุดบ่น
ดังนั้น หากเป็นไปได้ ผมก็จะใช้บริการแอร์พอร์ตลิงค์เป็นหลักมากกว่า
แม้ว่าจะต้องไปต่อรถอีก แต่ก็สบายใจกว่า ที่จะต้องมาเผชิญกับคนขับแท็กซี่ที่บางครั้งก็มักมีพฤติกรรมเชิงข่มขู่ต่างๆ
ประเด็นของปัญหาคือ ทำไมปัญหานี้ไม่มีที่สิ้นสุด
ทั้งๆ ที่เมื่อมีข่าวแบบนี้เกิดขึ้น และมีการสั่งปรับ สั่งลงโทษ แต่ก็ยังเกิดปัญหาซ้ำซาก และก็ดูเหมือนว่าแท็กซี่เหล่านั้นหรือส่วนที่เหลือ ก็ไม่ได้หวั่นเกรงกับมาตรการลงโทษ
AOT นั้นเป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุน
ที่ผ่านมาผลประกอบการเติบโตค่อนข้างดี
หรือเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านเข้าออกมายังสนามบินสุวรรณภูมิ หรือสนามบินที่อยู่ภายใต้การบริหารของ AOT
ในรอบ 1 ปี ราคาหุ้น AOT ปรับเพิ่มมา 53%
แน่นอนว่า ผลตอบแทนแบบนี้ย่อมเป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนทั้งรายย่อย รายใหญ่ และกองทุนต่างๆ
แต่การเป็นหุ้นที่ดีนั้น
ทุกๆ อย่างที่อยู่ภายใต้การบริหารของหุ้นตัวนั้นๆ ก็ควรจะดีด้วยเช่นกัน