CHG ปี 61 คงโตได้ดี!

มีการวิเคราะห์ว่าแนวโน้มปี 2561 ของ CHG ในกลุ่มลูกค้าโครงการ 30 บาทจะทรงตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กลุ่มลูกค้าเงินสด คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการขยาย Capacity ในช่วงก่อน เช่น เพิ่มจำนวนเตียง ปรับปรุงพื้นที่ให้บริการต่าง ฯลฯ ทำให้คาดจะรองรับจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการได้สูงขึ้น บวกคาดจะปรับขึ้นค่าบริการอีกเล็กน้อยราว 2-3% (ตั้งแต่ช่วงต้นปี)


คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์ว่าแนวโน้มปี 2561 ของ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG ในกลุ่มลูกค้าโครงการ 30 บาทจะทรงตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กลุ่มลูกค้าเงินสด คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการขยาย Capacity ในช่วงก่อน เช่น เพิ่มจำนวนเตียง ปรับปรุงพื้นที่ให้บริการต่าง ฯลฯ ทำให้คาดจะรองรับจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการได้สูงขึ้น บวกคาดจะปรับขึ้นค่าบริการอีกเล็กน้อยราว 2-3% (ตั้งแต่ช่วงต้นปี)

ส่วนกลุ่มลูกค้าประกันสังคม คาดจะได้รับการสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มเป็น 4.20 แสนราย (จาก 16 ก.พ. 2561 อยู่ที่ 4.17 แสนราย) จากสิ้นปี 2560 ที่ 4.02 แสนราย หลักๆ มาจากผู้ประกันตนเข้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาลรวมแพทย์ระยองเพิ่มขึ้น เหตุจากโรงพยาบาลใน จ.ระยองแห่งหนึ่ง ออกจากโครงการประกันสังคม (มีผลตั้งแต่ต้นปี 2561) ทำให้จำนวนผู้ประกันตนราว 2 หมื่นกว่าราย ต้องหาโรงพยาบาลใหม่

ประกอบกับในปีนี้กลุ่มลูกค้าประกันตนจะมีรับรู้อัตราค่ารักษาประกันสังคมใหม่เข้ามาเต็มปี ทำให้คาดรายได้กิจการโรงพยาบาลปี 2561 จะอยู่ที่ 4,337 ล้านบาท สูงขึ้น 11.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หากว่าในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2561 จะมีเปิดให้บริการโรงพยาบาล CHG 304 (อัพเกรดจากคลินิกเป็นโรงพยาบาลขนาด 100 เตียง) ในลักษณะอาคาร 7 ชั้น โดยเฟสแรกจะเปิดราว 30 เตียง และห้องตรวจ OPD อีกจำนวน 5 ห้อง ทำให้คาด GPM จะปรับตัวลงจากปีก่อนหน้าที่ 32.1% มาที่ 31.4% เท่า คาด SG&A จะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเข้ามาดังปีก่อนหน้า (เช่นค่าใช้จ่ายจากตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญประกันสังคมปี 2556 ที่ถูกบันทึกเข้ามาในไตรมาส 4/2560 จำนวน 27 ล้านบาท) หากเมื่อเทียบต่อยอดขาย คาดจะเท่ากับ 13.6% จากปี 2660 ที่ 14.2%

ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 1 ปี 2561 คาดผลประกอบการจะดีขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน หลักๆ มาจากฐานที่ต่ำ บวกกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการ จากมีโรคระบาด เช่น การแพร่ระบาดของไวรัสโรต้า (โรคท้องร่วง) ไข้หวัดใหญ่ ฯลฯ และคาดจะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษอื่นๆ เข้ามา

ผลดังกล่าวทำให้คาดกำไรปี 2561 จะอยู่ที่ 623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3%  จากงวดเดียวกันของปีก่อน และสำหรับงบลงทุนในปีนี้ บริษัทวางไว้ที่ราว 550-600 ล้านบาท

ที่สำคัญทางนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป มองว่าราคาหุ้นปรับตัวลงค่อนข้างแรง ขณะการดำเนินงานยังเด่น จึงแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินราคาพื้นฐานปี 2561 อยู่ที่ 2.50 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. น.ส.กรรณิกา พลัสสินทร์ 1,994,750,400 หุ้น 18.13%
  2. นายอภิรุม ปัญญาพล 1,127,189,050 หุ้น 10.25%
  3. นางกอบกุล ปัญญาพล 932,656,600 หุ้น 8.48%
  4. นายณรัณ รติพาณิชย์วงศ์ 775,493,100 หุ้น 7.05%
  5. คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล 399,655,300 หุ้น 3.63%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายเกรียงศักดิ์ พลัสสินทร์ ประธานกรรมการ
  2. นายกำพล พลัสสินทร์ กรรมการผู้จัดการ
  3. นายอภิรุม ปัญญาพล กรรมการ
  4. นายวิชิต ศิริทัตธำรง กรรมการ
  5. นายสุชาย เหล่าวีรวัฒน์ กรรมการ

Back to top button