จับเข่าคุย ‘เสี่ยยักษ์’

ช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมเดินทางไปบ้านพักที่ จ.ระยอง และถือโอกาสไปเยี่ยมเยือน Is House บ้านพักตากอากาศส่วนตัวบริเวณแหลมแม่พิมพ์ของ “เสี่ยยักษ์” หรือ คุณวิชัย วชิรพงศ์ นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้นไทย


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา

ผมเดินทางไปบ้านพักที่ จ.ระยอง และถือโอกาสไปเยี่ยมเยือน Is House บ้านพักตากอากาศส่วนตัวบริเวณแหลมแม่พิมพ์ของ “เสี่ยยักษ์” หรือ คุณวิชัย วชิรพงศ์ นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้นไทย

บ้านพักแห่งนี้หากใครที่ติดตาม Facebook ของเสี่ยยักษ์ น่าจะรู้จักกันดี

นั่นเพราะคือสถานที่ที่เสี่ยยักษ์เช็คอินบ่อยมากในวันหยุด

และจะตามมาด้วยประโยคที่พยายามสื่อเกี่ยวกับชีวิตของเขาในขณะนั้น หรือเป็นการบอกเล่าเพื่อให้ข้อคิดอะไรบางอย่างสำหรับคนที่ติดตาม

บ้านพักตากอากาศแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ราวๆ 67-68 ไร่

ผมนั่งคุยกับเสี่ยยักษ์หลายเรื่องมากในบริเวณพื้นที่พักผ่อนอยู่ติดกับชายหาด

เสี่ยยักษ์บอกว่า ที่ดินผืนนี้เขาซื้อมานานหลายปีมากแล้ว

เดิมนั้น เดินทางมาดูกับเพื่อนๆ หลายคน

แต่ไม่มีใครยอมซื้อด้วย เขาเลยซื้อไว้คนเดียว

หลังจากนั้นก็สร้างบ้านพัก และปลูกต้นไม้ไว้เยอะมาก และพื้นที่ด้านข้างก็มีโรงแรมระดับ 3 ดาว ที่ชื่อว่า Moment Villa ซึ่งเป็นกิจการที่ลูกสาวของเสี่ยยักษ์ดูแลอยู่

เงินที่นำมาซื้อที่ดินนั้น เสี่ยยักษ์บอกว่าได้มาจากการลงทุนในตลาดหุ้น

การลงทุนด้วยการซื้อที่ดินนั้น

เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เสี่ยยักษ์มักจะมาเล่าสู่กันฟังผ่านเพจ “พ่อสอนลูกลงทุน” ของเขา

“การซื้อที่ดินลงทุน ควรดูที่ปัจจัยหลายๆ อย่างด้วย เช่น ติดทะเล ติดแม่น้ำ ติดถนนใหญ่ อยู่บนภูเขาที่วิวสวย” เสี่ยยักษ์ บอกไว้ครับ

เสี่ยยักษ์แนะนำด้วยว่า “อย่าซื้อที่ดินที่พัฒนาแล้ว เพราะราคามันจะขึ้นไม่มาก”

ผมเปลี่ยนเรื่องมาคุยเกี่ยวกับตลาดหุ้น

ถามเสี่ยยักษ์ว่า ยังถือหุ้น ITD กับ BEM อยู่ใช่ไหมครับ

“หลักๆ ผมก็ยังถือหุ้น 2 ตัวนี้อยู่”เสี่ยยักษ์ กล่าวตอบ

ผมชวนคุยเรื่องหุ้น ITD กับ BEM อยู่สักพัก ก่อนที่เสี่ยยักษ์จะบอกว่า ทุกวันนี้การลงทุนในตลาดหุ้นแตกต่างจากหลายปีก่อนหน้านี้ค่อนข้างมาก

“ทุกวันนี้ลงทุนยากขึ้น และยังมีเรื่อง AI เข้ามา และอื่นๆ อีก” เสี่ยยักษ์ กล่าว

สำหรับ AI หรือ Artificial Intelligence เป็นนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ที่เข้ามาใช้ในกระบวนการตัดสินใจลงทุน

AI จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้รวดเร็ว แม่นยำ เกินกว่าขีดความสามารถของมนุษย์

และ AI จะช่วยลดข้อผิดพลาดและความอคติของมนุษย์ (นักลงทุน)

ผมชวนคุยเรื่องเกี่ยวกับ DW และบล็อกเทรด (Block Trade)

เสี่ยยักษ์บอกว่า เขาไม่ได้เข้าไปลงทุนหรือเกี่ยวข้องกับพวกนี้เลย

และบอกว่า “ผมคงเป็นนักลงทุนรุ่นเก่าไปแล้ว” พร้อมกับหัวเราะ

เสี่ยยักษ์บอกด้วยว่า ทุกวันนี้มีหุ้นหลายตัวที่เพิ่งเข้าตลาด ทำธุรกิจที่ไม่ได้ใช้เงินทุนอะไรมาก (ผมเข้าใจว่าเสี่ยยักษ์น่าจะเปรียบเทียบกับหุ้น ITD) แต่สร้างกำไรได้ดี เช่น บมจ.ดูเดย์ดรีม หรือ DDD และอาฟเตอร์ยู (AU)

ผมถามเสี่ยยักษ์เรื่อง VDC หรือ บริษัท เวนดิ้ง คอร์ปอเรชั่นฯ ที่เขาเข้าไปถือหุ้นใหญ่

ซึ่งเสี่ยยักษ์เชื่อว่าจะมีอนาคตที่ดี

และพูดถึงธุรกิจ “สบายมันนี่” ที่เร็วๆ นี้น่าจะมีรายละเอียดออกมา

ธุรกิจภายใต้ “สบายมันนี่” ดูเหมือนเสี่ยยักษ์จะเชื่อมั่นว่าธุรกิจนี้จะเติบโตได้รวดเร็ว

สบายมันนี่ มีผู้บริหารและผู้ร่วมทุน (ถือหุ้น 15%) คนสำคัญเป็นอดีตนายธนาคาร นั่นคือ “อั๋น” หรือ คุณทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์

สำหรับ “ทรงพล” คืออดีต รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

ก่อนที่ “วรภัค ธันยาวงษ์” อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ดึง “ทรงพล” มาร่วมงาน และสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านการตลาดรายย่อยของกรุงไทยค่อนข้างมาก

“อั๋นเขาเป็นคนเก่ง” เสี่ยยักษ์กล่าวถึงคุณทรงพล

ผมถามเกี่ยวกับชีวิตการเทรดหุ้นของเสี่ยยักษ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร

เสี่ยยักษ์ตอบว่า ชีวิตทุกวันนี้ต่างจากหลายๆ ปีก่อนหน้านี้

ทุกวันนี้นั้น เสี่ยยักษ์บอกว่า เขาจะเข้าไปที่ห้องทำงาน (เทรดหุ้น : บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ช่วงเที่ยงๆ)

และเวลาประมาณบ่าย 3 โมง ก็จะออกไปขี่จักรยานกับเพื่อนๆ ที่ Sky Lane Thailand หรือลู่ปั่นจักรยานรอบสนามบินสุวรรณภูมิ

“สัปดาห์หนึ่งก็จะไปขี่จักรยาน 3-4 วัน เฉลี่ยวันละ 2 รอบ”

สำหรับความยาวสนามแห่งนี้อยู่ที่ 23.5 กม. ซึ่งเสี่ยยักษ์บอกว่า ปั่น 2 รอบ จะอยู่ที่ 47 กม. และตอนนี้ทำเวลาได้ค่อนข้างดี

เสี่ยยักษ์ เล่าด้วยว่า ทุกวันนี้หากมีแข่งขันขี่จักรยานที่ไหน เขาก็จะไปร่วมด้วย

ระหว่างนั่งพูดคุย ผมสังเกตว่า ในมือเสี่ยยักษ์ถือหนังสือเล่มหนึ่ง หน้าปกเขียนว่า Ketogenic Diet ที่เขียนโดย ไอซ์ THAI KETO PAL

เสี่ยยักษ์ บอกว่า ทุกวันนี้นอกจากการออกกำลังกายแล้ว

เขาก็ต้องดูแลสุขภาพ และเรื่องอาหารการกินด้วย ต้องงดแป้ง งดน้ำตาล หรือกินให้น้อยลง และหันมากินอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยศึกษาจากหนังสือเล่มที่อยู่ในมือนี้

การเงินและสุขภาพ เป็นของคู่กันครับ

Back to top button