ICHI ตัน (นอนดริงก์).!?

น่าสนใจ..!! เมื่อบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ซึ่งโตมาจากธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียว โดยมี “เสี่ยตัน ภาสกรนที” เป็นคนปลุกปั้น กำลังจะแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจนอนดริงก์..!!


สำนักข่าวรัชดา

น่าสนใจ..!! เมื่อบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ซึ่งโตมาจากธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียว โดยมี “เสี่ยตัน ภาสกรนที” เป็นคนปลุกปั้น กำลังจะแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจนอนดริงก์..!!

ถือเป็นความพยายามอีกครั้งของ ICHI และ เสี่ยตัน หลังจากตลาดชาเขียวหมดยุครุ่งเรือง…ไม่ปังเหมือนก่อน พร้อม ๆ กับสิ้นมนต์ขลังของหวยชาเขียวรวยรายวัน..!!

ประกอบกับตลาดชาเขียวกลายเป็นทะเลแดงเดือด (Red Ocean) ไปแล้ว…เรียกว่าแข่งขันกันดุเดือดไม่พอ ตลาดยังติดลบอีกต่างหาก นับจากจุดพีกสูงช่วงปี 25572559 มีมูลค่าตลาดเฉลี่ยสูงถึง 15,000 ล้านบาท ก็ลดลงเรื่อย ๆ ปี 2560 มูลค่าตลาดเหลือ 13,237 ล้านบาท ปี 2561 เหลือ 11,951 ล้านบาท ส่วนปี 2562 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 12,300 ล้านบาท

ขณะที่ครึ่งแรกปี 2563 ได้รับผลกระทบจากโควิด ส่งผลให้มูลค่าตลาดอยู่ที่ 5,639 ล้านบาท ลดลง 12.71%

สะท้อนได้จากผลประกอบการของ ICHI เมื่อหลายปีก่อนเคยทำกำไรระดับพันล้านบาท ก็ลดลงเหลือแค่ 300-400 ล้านบาทเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ ICHI พยายามปรับกลยุทธ์หันไปหาขุมทรัพย์ใหม่ ออกสินค้าเครื่องดื่มที่ไม่ใช่ชา หรือ Non-Tea ไม่ว่าเครื่องดื่มน้ำสมุนไพร น้ำผลไม้ และนมอัดเม็ด OneMorr

ล่าสุดก็รุกไปสู่ตลาดน้ำดื่มผสมวิตามินซี โดยเพิ่งเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 3 รายการ ได้แก่ อิชิตัน น้ำด่าง 8.5, อิชิตัน วิตซีซี และอิชิตัน วิตามิน วอเตอร์ ซี พลัส อี เพื่อสร้างความหลากหลายของโปรดักส์

ขณะเดียวกัน ในเชิงบริหารจัดการช่วยเพิ่มความคุ้มค่าของโรงงาน เป็นการใช้คาปาซิตี้ที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด

แต่โปรดักส์ลักษณะนี้มีคู่แข่งเยอะ มีทั้งเจ้าใหญ่ เจ้าขนาดกลาง และบริษัทที่โฟกัสเฉพาะกลุ่มครองตลาดอยู่แล้ว สุดท้ายก็หนีไม่พ้นเทรดวอร์ หรือสงครามราคา สิ่งที่ตามมาก็ต้องมีการอัดโปรแรงเพื่อดึงดูดลูกค้าให้ได้มากที่สุด ในที่สุดก็จะกลับมาสู่วงจรยอดขายสูง แต่กำไรต่ำ ทำให้การเติบโตแบบจำกัด…โตได้แต่ไม่มาก

โอเค…ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตลาดกำลังบูม โดยคาดว่าในปี 2563 ตลาดเครื่องดื่มผสมวิตามินจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5,500 ล้านบาท และในปี 2564 มูลค่าตลาดจะขยับไปเป็น 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์สุขภาพ แต่พอเทรนด์สุขภาพจางหายไป ก็จะลดดีกรีความร้อนแรงลง…เหมือนตลาดชาเชียวที่ก่อนหน้านี้บูมแรงอยู่พักใหญ่ แต่พอกระแสหายไปก็เงียบเหงา…

ICHI คงเห็นถึงประเด็นนี้ เพราะเคยมีบทเรียนมาแล้วจากกรณีเครื่องดื่มชาเขียว ซึ่งเป็นธุรกิจที่มาตามเทรนด์

ดังนั้น การจะให้ ICHI เติบโตอย่างยั่งยืนก็ต้องหาธุรกิจนอนดริงก์มาเติมเต็ม ช่วยชดเชยเทรนด์ที่จะดับลงในอนาคต…

แต่กลยุทธ์ในการรุกสู่ธุรกิจนอนดริงก์ของ ICHI นั้น ไม่เน้นการสร้างโปรดักส์ขึ้นมาใหม่…ซึ่งอาจเสียทั้งเวลาและเม็ดเงิน ที่สำคัญไม่รู้จะซัคเซสหรือเปล่า..? ในยุคที่ตลาดแข่งขันกันดุเดือด การเข้าไปลงทุนในกิจการที่มีรายได้และกำไรอยู่แล้ว เป็นทางลัดที่จะเติบโตได้เร็วกว่า แถมยังสามารถรับรู้รายได้และกำไรได้ทันทีอีกด้วย

นี่ก็แว่ว ๆ มาว่าอยู่ระหว่างเจรจาร่วมลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ 1 ราย คาดจะได้ข้อสรุปภายในปี 2564 โดยวางเป้าหมายจะลงทุนอย่างน้อย 2-3 ราย พร้อมตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจนอนดริงก์เป็น 50% ภายในปี 2568

ถือเป็นการสร้างความหลาก…เพื่อลดความเสี่ยงของธุรกิจ..!!

ก็น่าจับตาธุรกิจนอนดริงก์ของ ICHI และเสี่ยตัน คืออะไร..? จะมาเป็นขาที่ช่วยเสริมการเติบโตให้กับ ICHI ได้หรือไม่..?

แต่ขึ้นชื่อว่า “เสี่ยตัน” ไม่น่าจะตันเหมือนชื่อหรอกมั้ง…ใช่มั้ยคะ

…อิ อิ อิ…

Back to top button