PDI ลูกอุ้มกระเตงแม่.!

หุ้นบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ PDI เป็นหุ้นที่เงียบหายมานาน นึกว่าปลิวไปกับแผ่นสังกะสีซะแล้ว...หลายปีที่ผ่านมาไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ แต่ล่าสุดเป็นที่ฮือฮาและน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง จากกรณีแจ้งทำรายการ 2-3 รายการ...


สำนักข่าวรัชดา

หุ้นบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ PDI เป็นหุ้นที่เงียบหายมานาน นึกว่าปลิวไปกับแผ่นสังกะสีซะแล้ว…หลายปีที่ผ่านมาไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ แต่ล่าสุดเป็นที่ฮือฮาและน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง จากกรณีแจ้งทำรายการ 2-3 รายการ…

เริ่มจากเตรียมขายแอสเซทที่มีมูลค่ามากสุดในมือ…ไม่ต่างจากเต่าขายเนื้อในกระดอง เพื่อมาซื้อโรงแรม 2 แห่ง มูลค่า 2,805 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ PDI ไม่เคยข้องแวะเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรมมาก่อนเลย ถือเป็นธุรกิจใหม่เอี่ยมอ่องถอดด้าม…จึงไม่พ้นเกิดคำถามตามมา…

ขณะที่ถ้าไปดูกระแสเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดมีไม่ถึง 2,805 พันล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 มีอยู่แค่ 836 ล้านบาทเท่านั้น จึงเป็นที่มาของการตัดขายแอสเซท นั่นคือโซลาร์ฟาร์ม 7 แห่ง รวมกำลังการผลิต 36.4 เมกะวัตต์ ให้กับบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS รวมมูลค่า 1,705 ล้านบาท

แต่ก็ยังไม่เพียงพอ…ต่อด้วยก๊อกสอง ออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 301.33 ล้านหุ้น แบ่งขาย 2 แบบ แบบแรกขาย RO จำนวน 226 ล้านหุ้น และที่เหลือจำนวน 75 ล้านหุ้น รองรับการออกวอร์แรนต์ (PDI-W2)

เพื่อระดมเงินไปซื้อโรงแรม 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ และโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งก็ไม่ใช่ของใครที่ไหน เป็นของแม่บังเกิดเกล้า บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGD ในกลุ่มบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGH นั่นเอง

จึงเป็นที่กล่าวขวัญ…จากแอสเซทที่สร้าง Recurring Income หรือรายได้ประจำให้กับบริษัท มีกระแสเงินสดเข้าทุกวัน แต่กลับตัดขายซะงั้น…เพื่อมาคาดหวังกับน้ำบ่อหน้าอย่างธุรกิจโรงแรม..!!

โอเค…ถ้ามองมุมบวก ก็เป็นจังหวะซื้อของดีราคาถูกทำได้ ไม่ว่ากัน…

แต่ด้วยสถานการณ์อย่างนี้ เป็นที่รู้กันว่าเป็นช่วงยากลำบากของธุรกิจโรงแรม…แม้ตอนนี้มีข่าวดีวัคซีนโควิดออกมาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถการันตีได้ว่าธุรกิจท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวเมื่อไหร่..? อันนี้ก็น่าคิด บ่อน้ำบ่อใหม่ของ PDI จะแห้งขอดไปซะก่อนมั้ยเนี่ย…

แต่ถ้ามองอีกมุม เรื่องแบบนี้มันเป็นความจำเป็นของกลุ่มคันทรี่ กรุ๊ป ซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่ของ PDI

ว่าแต่ทำไมแม่ต้องขายโรงแรมทิ้งซะล่ะ..?

อาจด้วยความจำเป็นของ CGD ที่ก่อนหน้านี้ให้เงินลงทุนไปเยอะ โดยเฉพาะโครงการเจ้าพระยา เอสเตท โครงการมิกส์ยูส บนพื้นที่ 35-2-68 ไร่ บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่าโครงการ 32,000 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งโรงแรมและโครงการคอนโดมิเนียมหรูอลังการงานสร้าง ที่มีทาร์เก็ตเป็นลูกค้าไฮเอ็นด์และชาวต่างชาติ…

จากที่คาดหวังจะมียอดโอนเข้ามา แต่ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้ยอดโอนไม่เข้าเป้า…ยอดโอนไม่เข้าไม่พอ แต่ดอกเบี้ยมันพุ่งนี่สิเรื่องใหญ่ เลยจำเป็นต้องขายแอสเซทออกไป เพื่อนำเงินมาเติมสภาพคล่อง…จ่ายดอกเบี้ย ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 3/2563 CGD มีหนี้สินระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีอยู่ที่ 4,400 ล้านบาทหนักไปทางตราสารหนี้เกือบทั้งหมด

แหม๊…ตัวเลขสูงไม่เบาเลยนะเนี่ย…

CGD จึงต้องหาทางแก้ปัญหาชีวิตของตัวเอง…

แต่เคสนี้ไม่มีอะไร…แค่ลูกช่วยอุ้มกระเตงแม่ก็เท่านั้น…

…อิ อิ อิ…

Back to top button