KKP คาดไตรมาส 2 โต!

มีการวิเคราะห์กันว่า KKP ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 คาดกำไรจะเติบโตได้ดีจากสินเชื่อและธุรกิจหลักทรัพย์ช่วยหนุน


คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์กันว่า ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 คาดกำไรจะเติบโตได้ดีจากสินเชื่อและธุรกิจหลักทรัพย์ช่วยหนุน

โดยทาง บล.เคทีบีเอสที ประมาณการกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2564 อยู่ที่ 1.45 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 1% จากไตรมาสก่อน โดยกำไรยังเติบโตได้ดีต่อเนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่เติบโตเพิ่มขึ้น 19% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากธุรกิจหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นถึง 41% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 9.8 หมื่นล้านบาทต่อวัน

ประกอบกับสินเชื่อเพิ่มขึ้นได้ดี 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 6% จากต้นปีถึงปัจจุบัน จากสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลัก ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) คาดว่าทรงตัวได้ที่ 4.42% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 แต่อย่างไรก็ดียังคงมีการตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้น 17% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เพราะแนวโน้มขาดทุนรถยึดยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นตามจำนวนรถยึดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) จะทยอยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.50% จาก 3.20% ในไตรมาสก่อน จากลูกหนี้เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือ

ขณะที่ ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิปรับตัวลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 1,462.68 ล้านบาท หรือ 1.73 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,484.07 ล้านบาท หรือ 1.75 บาทต่อหุ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการตั้งสำรองฯ ที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับผลกระทบสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ทางนักวิเคราะห์ยังคงประมาณการกำไรสุทธิในปี 2564 อยู่ที่ 6.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่จะยังทรงตัวในระดับสูงที่ 4.67% จาก 4.3% เพราะต้นทุนทางการเงินที่ลดลง และรายได้ค่าธรรมเนียมจะเพิ่มขึ้น 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากธุรกิจหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายที่ทรงตัวในระดับสูง ประกอบกับปี 2563 มีการตั้งสำรองฯ เผื่อไปเยอะแล้ว

ขณะที่คาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2564 ถึงไตรมาส 4 ปี 2564 จะเติบโตได้โดดเด่นเมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน เพราะช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 ถึงไตรมาส 4 ปี 2564 มีการตั้งสำรองฯ ในระดับสูงถึง 1-2 พันล้านบาท จากปกติที่ 700-800 ล้านบาท รวมถึงธุรกิจหลักทรัพย์จะยังเป็นตัวช่วยหนุนต่อ จากมูลค่าการซื้อขายที่ทรงตัวในระดับเกือบแสนล้านบาทต่อวัน และยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน (EDT) ซึ่งช่วยให้กำไรเติบโตเหนือกลุ่มฯ

ทั้งนี้ จากประเด็นข้างต้นยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 65.00 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 57,502,626 หุ้น 6.79%
  2. น.ส.ฐิตินันท์ วัธนเวคิน 35,532,761 หุ้น 4.20%
  3. บริษัท น้ำตาลตะวันออก จำกัด 35,000,804 หุ้น 4.13%
  4. บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) 34,867,143 หุ้น 4.12%
  5. SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED 27,841,631 หุ้น 3.29%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายสุพล วัธนเวคิน ประธานกรรมการ
  2. นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการ
  3. นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
  4. นายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่, กรรมการ
  5. นายสุวิทย์ มาไพศาลสิน กรรมการ

Back to top button