SAPPE จับตาผลงานเด่น “รายได้ส่งออกฟื้น”

มีการวิเคราะห์ว่า SAPPE จะสามารถทำกำไร Q2/64 ที่ 118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 42% จากงวดเดียวกันของปีก่อน


คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์กันว่า บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE คาดสามารถทำกำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.6% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 42.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แม้ยังมีสถานการณ์โควิด-19 กระทบรายได้ในประเทศ และต่างประเทศในบางประเทศ เช่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

อย่างไรก็ดียังคาดรายได้ในประเทศยังทรงตังจากไตรมาสก่อน (แต่ลดลง 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) เพราะได้สินค้าใหม่เข้ามาช่วยหนุน อาทิ Beauti Drink กลิ่นเทอร์ปีน และคาดรายได้ส่งออกจะฟื้นตัวอย่างน่าประทับใจ เพิ่มขึ้น36% จากไตรมาสก่อน, และเพิ่มขึ้น 60% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มาจากทั้งตะวันออกกลาง, เกาหลีใต้, ยุโรป และสหรัฐ ตามการฟื้นตัวจาก COVID-19 ที่เร็วกว่าไทย

ผลดังกล่าวส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้นได้ตามฤดูกาล และสามารถหักล้างผลลบจากต้นทุน Pet Resin ที่ปรับขึ้นได้ทั้งหมด จึงคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะยังทำได้ดีทรงตัวใกล้เคียงไตรมาส 1/2564 และสูงขึ้นจาก 35.4% ในไตรมาส 2/2563 เพราะปีก่อน Excise Tax ยังไม่ถูกลด ในขณะที่คาดค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้น 17.5% จากไตรมาสก่อน, และเพิ่มขึ้น 32.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากค่าขนส่งที่สูงขึ้นจากการช่วยลูกค้าหาสายเรือ โดยลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบค่าขนส่ง บริษัทจึงรับรู้กลับมาในส่วนของรายได้อื่น ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้ทั้งหมด สำหรับส่วนแบ่งขาดทุนจาก Danone-Sappe ยังขาดทุนต่อเนื่องใกล้เคียงไตรมาสก่อน เพราะยังไม่มีการออกสินค้าใหม่ และถูกกระทบจาก COVID-19

โดยหากกำไรไตรมาส 2/2564 เป็นไปตาม บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดการณไว้ ทาง SAPPE จะมีกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 2564 อยู่ที่ 204 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จะคิดเป็น 43% ของประมาณการกำไรทั้งปี

นอกจากนี้ประเมินแนวโน้มกำไรจะฟื้นตัวต่อในไตรมาส 3/2564 และน่าจะเป็นกำไรสูงสุดของปีนี้ เพราะเป็น High Season ของธุรกิจ, รายได้ส่งออก ยังดูสดใสต่อเนื่อง, ล่าสุดมีการออกสินค้าใหม่จากการ Collaborate กับ WORK คือ ลูกอมครูเพ็ญศรี และร่วมกับแบรนด์ ตะขาบ 5 ตัว ทำเครื่องดื่มสมุนไพรสกัดจากหล่อ อั้งก๊วย ชะเอมเทศ มะนาว และมะขามป้อม และยังมีแผนออกสินค้าใหม่เพิ่มเติมอีก หลาย SKU ในครึ่งหลังปี 2564 รวมถึงสินค้าที่มีส่วนผสมจากกัญชงที่อยู่ระหว่างพัฒนาสูตร เพื่อเตรียมออกภายในไตรมาส 4/2564 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของกฎหมายและ ใบอนุญาตจาก อย.เป็นหลัก

ขณะที่แม้ต้นทุน Pet Resin ที่สูงขึ้น จะถูก กระทบเต็มไตรมาสในไตรมาส 3/2564 โดยราคา Pet เพิ่มขึ้น 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่บริษัทได้ปรับปรุงต้นทุน และประสิทธิภาพการผลิต เพื่อให้กระทบอัตรากำไรขั้นต้นไม่เกิน 1% เชื่อว่าผลกระทบอาจน้อยกว่านั้น เพราะยังได้รับผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่าเข้ามาช่วย สถานการณ์โดยรวมยังดูสอดคล้องกับประมาณการ

ทั้งนี้จึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 477 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และในปี 2565 อยู่ที่ 531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ดังนั้นยังคงราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 36 บาท ยังมี Upside 34.6% คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. น.ส. ปิยจิต รักอริยะพงศ์ 54,260,223 หุ้น 17.83%
  2. นาย อดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ 52,239,257 หุ้น 17.16%
  3. นาย อานุภาพ รักอริยะพงศ์ 46,736,574 หุ้น 15.35%
  4. นาย ธนรัตน์ รักอริยะพงศ์ 45,807,542 หุ้น 15.05%
  5. UBS AG SINGAPORE BRANCH 20,000,000 หุ้น 6.57%

รายชื่อกรรมการ

  1. นาย นที อ่อนอิน ประธานกรรมการ
  2. นาย อดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร, รองประธานกรรมการ
  3. น.ส. ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
  4. นาย อนันท์ รักอริยะพงศ์ กรรมการ
  5. นาย อานุภาพ รักอริยะพงศ์ กรรมการ

Back to top button