RBF ลุ้น Q4 กำไรดีขึ้น

มีการวิเคราะห์กันว่า ส่วนของผลประกอบการใน Q4/64 ของ RBF โอกาสแนวโน้มดีขึ้น เหตุจากการฟื้นตัวของการบริโภคที่กลับมาดีขึ้น หลังจากคลายล็อกดาวน์


คุณค่าบริษัท                  

มีการวิเคราะห์กันว่า ส่วนของผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 ของบริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF โอกาสแนวโน้มดีขึ้น เหตุจากการฟื้นตัวของการบริโภคที่กลับมาดีขึ้น หลังจากคลายล็อกดาวน์ และสามารถกลับไปนั่งรับประทานอาหารในร้านได้

ขณะเดียวกันพร้อมประเมินไปยังปี 2565 คาดรายได้ยังสามารถเห็นการเติบโต 10-12% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งยังไม่รวมโปรเจกต์กัญชง

อีกทั้งประเมินว่าสถานการณ์ราคาวัตถุดิบปี 2565 คาดจะใกล้เคียงปี 2564 เนื่องจากวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากจีน และจากเกณฑ์มาตรการกฎหมายสิ่งแวดล้อมใหม่ของจีนที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการทำ cost down project กับลูกค้า โดยเจรจาใช้วัตถุดิบอื่นทดแทนวัตถุดิบที่ราคาปรับตัวขึ้นสูง

รวมทั้งปัจจุบันบริษัทได้รับ license การปลูกแล้วราว 340 ไร่ โดยพื้นที่ใน จ.เชียงราย จะเริ่มทำการปลูก เพื่อเอาเมล็ดกัญชงก่อน เพื่อนำไปทำ hemp seed oil นอกจากนี้การปลูกกัญชงยังคงเติบโตด้วยดี อุปสรรคที่เจอค่อนข้างน้อย อาทิ ปัญหาเรื่องแมลงต่าง ๆ ทั้งนี้จะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 1 ปี 2565

ขณะที่ บล.เคทีบีเอสที ประเมินว่ากำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 428 ล้านบาท ลดลง 18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยยังคงมุมมองครึ่งหลังของปี 2564 ยังคงถูกกดจากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่กดดันต่อผลประกอบการ

ส่วนคาดการณ์ว่าปี 2565 ด้านต้นทุนวัตถุดิบจะปรับตัวลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติ หลังจากปัญหาการขนส่งคลี่คลาย และคงกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 1,450 ล้านบาท โตเพิ่มขึ้น 238% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยสำคัญในการเติบโตคือ การรับรู้รายได้จากกัญชงที่คาดว่าจะสามารถรับรู้ได้ในไตรมาส 1 ปี 2565 เป็นต้นไป และยังคงสมมติฐาน Demand กัญชงที่ราว 6,000 กิโลกรัมต่อปี และมีราคาขายสารสกัด CBD ที่ 200,000 บาทต่อกิโลกรัม

ทั้งนี้คาดประเมินกำไรปี 2565 ยังมี upside จาก 2 ปัจจัย คือ ราคาขาย CBD ที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 10,000 บาทต่อกิโลกรัม จะส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้น 46 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 3% ของประมาณการปี 2565 และคิดเป็นผลกระทบต่อราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น 0.9 บาทต่อหุ้น และ yield ที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ +1% จะส่งผลต่อกำไรเพิ่มขึ้น 288 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 20% ของประมาณการปี 2565 และคิดเป็นผลกระทบต่อราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น 5.7 บาทต่อหุ้น

ดังนั้นประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 29.00 บาท แนะนำ “ซื้อ”

….

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นางเพ็ชรา รัตนภูมิภิญโญ 556,031,000 หุ้น 27.80%
  2. นายสมชาย รัตนภูมิภิญโญ 556,030,900 หุ้น 27.80%
  3. พ.ต.พญ.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ 160,159,000 หุ้น 8.01%
  4. พญ.สนาธร รัตนภูมิภิญโญ 160,159,000 หุ้น 8.01%
  5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 111,723,162 หุ้น 5.59% 

รายชื่อกรรมการ

  1. นางเบญจวรรณ รัตนประยูร ประธานกรรมการบริษัท, กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  2. นายสมชาย รัตนภูมิภิญโญ ประธานกรรมการบริหาร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
  3. นางเพ็ชรา รัตนภูมิภิญโญ กรรมการ
  4. น.ส.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ กรรมการ
  5. น.ส.สนาธร รัตนภูมิภิญโญ กรรมการ

 

 

Back to top button