ตลท.อัดยาแรงคุมเข้ม DV8 ประเดิมใช้ Auction เริ่มพรุ่งนี้

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกระดับมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ “DV8” เป็นระดับ 2 ด้วยการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมจากระดับ 1 คือ ห้าม Net settlement และให้ซื้อขายด้วยวิธี Auction


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (15 ก.ค. 68) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยกระดับมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัท ดีวี8 จำกัด (มหาชน) หรือ DV8 เป็นระดับ 2 ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. – 5 ส.ค. 68 ส่งผลให้ในช่วงเวลาดังกล่าว หลักทรัพย์ DV8 จะซื้อขายด้วยวิธี Auction และห้าม Net settlement เพิ่มเติมจากเงื่อนไขที่กำหนดในมาตรการระดับ 1 โดยผู้ลงทุนที่จะซื้อขายหลักทรัพย์ DV8 สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ 3 ช่วงเท่านั้น คือ Pre-open 1/ Pre-open 2 และ Pre-close และตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสุ่มเวลาจับคู่ (random) วันละ 3 รอบ ดังนี้

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 68 ตลท.เริ่มใช้มาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 กับหลักทรัพย์ DV8 เนื่องจากพบว่า สภาพการซื้อขายปรับตัวเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้าเป็นจำนวนมากอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานและสารสนเทศสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่งช่วงที่อยู่ในมาตรการพบว่าปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างมาก (เฉลี่ยวันละ 5 ล้านหุ้น) แต่ราคาหลักทรัพย์ DV8 ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับปริมาณการซื้อขาย DV8 ในวันนี้ (15 ก.ค. 2568) ปรับตัวสูงมากทั้งราคาและปริมาณ โดยราคาปิด New high ที่ 8.60 บาท (+21.13%) ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ 18 ล้านหุ้น P/E ขาดทุน และ P/BV ที่ 15.4 เท่า ส่งผลให้ Market Cap ปรับสูงขึ้นเป็น 11,356 ล้านบาท จาก 700 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 เดือน

นอกจากนั้นในช่วงก่อนหน้านี้ (วันที่ 3 ก.ค. และ 11 ก.ค. 2568) บริษัทแจ้งสารสนเทศเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อ (Tender offer) ที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาดอย่างมากที่ราคาหุ้นละ 0.56 บาท โดยหากซื้อได้ไม่ถึง 990 ล้านหุ้น จะยกเลิกการทำ Tender offer และผู้ทำคำเสนอซื้อมีแผนที่จะนำเสนอการขยายธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยอยู่ระหว่างศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ของธุรกิจ คาดว่าจะได้ความแน่นอนเกี่ยวกับการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนภายในไตรมาส 4 ปี 2568 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงยกระดับมาตรการกำกับการซื้อขายเป็นระดับ 2 ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. – 5 ส.ค. 2568 และขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาปัจจัยพื้นฐานและข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือประกอบให้รอบคอบก่อนการลงทุน

หมายเหตุ :  มาตรการกำกับการซื้อขายให้สมาชิกดำเนินการ

ระดับ 1: ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance (ซื้อด้วยเงินสด 100%)

ระดับ 2: ห้าม Net settlement (ห้ามการชำระราคาหลักทรัพย์ในลักษณะที่บริษัทหลักทรัพย์นำค่าซื้อและค่าขายหลักทรัพย์เดียวกัน ในวันเดียวกัน ของนักลงทุนรายเดียวกัน มาหักลบกันเพื่อหายอดสุทธิ) , ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย, Cash Balance และให้ซื้อขายด้วยวิธี Auction (การซื้อขายด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติ โดยจับคู่ซื้อขายครั้งเดียวเมื่อเปิดทำการ)

ระดับ 3: หยุดพักการซื้อขาย 1 วัน ในวันทำการแรก, เมื่ออนุญาตให้ซื้อขาย ห้าม Net Settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย, Cash Balance และให้ซื้อขายด้วยวิธี Auction

สำหรับ Net Settlement คือ การชำระราคาหลักทรัพย์ในลักษณะที่บริษัทหลักทรัพย์นำค่าซื้อและค่าขายหลักทรัพย์เดียวกัน ในวันเดียวกัน ของนักลงทุนรายเดียวกัน มาหักลบกันเพื่อหายอดสุทธิ และเมื่อถึงวันที่ 2 หลังจากการซื้อขาย (T+2) นักลงทุนก็เพียงแต่ชำระส่วนต่างที่มูลค่าซื้อมากกว่ามูลค่าขายเท่านั้น หากมูลค่าขายมากกว่ามูลค่าซื้อ นักลงทุนก็ได้รับเงินในส่วนต่างสุทธิดังกล่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ การชำระค่าซื้อขายแบบยอดสุทธิช่วยให้นักลงทุนไม่ต้องชำระเงินเต็มจำนวนยอดที่ซื้อทุกรายการ ทำให้นักลงทุนมีสภาพคล่องมากขึ้น

ส่วน Auction คือ มาตรการใหม่ที่จะถูกใช้ในการดับความร้อนแรงของหุ้น จากเดิมที่ระบบการซื้อขายเป็นแบบ Automatic Order Matching (AOM) ที่คำสั่งซื้อ และคำสั่งขาย จะถูกจับคู่การซื้อขายอัตโนมัติ ตามความต้องการของผู้ซื้อ และผู้ขายหุ้น ให้มาเป็นแบบการประมูล

วิธีทำงานของ Auction จะใช้วิธีการประมูลหุ้น เหมือนกับช่วงเปิด หรือปิดการซื้อขายที่นักลงทุนจะคุ้นเคยการตั้งราคา ATO หรือ ATC โดยการประมูล การซื้อขายหุ้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 รอบ คือ

ช่วงที่ 1 การจับคู่ซื้อขายครั้งแรกของวัน ในเวลา 09.50 น.

ช่วงที่ 2 ช่วงเวลาก่อนเปิดทำการซื้อขายในช่วงบ่ายเวลา 14.25 น.

ช่วงที่ 3 ช่วงเสนอราคาปิดการซื้อขายประจำวัน 16.35 น.

โดยในช่วงเวลาซื้อขายปกติทั้งเช้า และบ่าย จะเป็นช่วงการอัปเดตคำสั่งซื้อขาย และ การยกเลิกคำสั่งซื้อขาย

Back to top button