AU ขนมไม่หวาน

หุ้นที่ราคาแรงโดยหาเหตุผลอธิบายยากในตลาดหุ้นไทยยามนี้ คือ AU เจ้าของฉายา “หุ้นน้ำแข็งใส” เป็นปรากฏการณ์พิเศษที่อาจจะถือเป็นข้อยกเว้นได้


หุ้นที่ราคาแรงโดยหาเหตุผลอธิบายยากในตลาดหุ้นไทยยามนี้ คือ  บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU เจ้าของฉายา “หุ้นน้ำแข็งใส” เป็นปรากฏการณ์พิเศษที่อาจจะถือเป็นข้อยกเว้นได้

ปีที่ผ่านมา ผู้บริหารของบริษัทนี้ พยายามปรับโมเดลธุรกิจใหม่ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดจากการที่รายได้จากการทานในร้านคิดเป็น 90% ของยอดขายรวมของ AU ในช่วงก่อนที่ COVID จะระบาด ได้ลดลง หลังจากที่เกิดโรคระบาดเนื่องจากข้อกำหนดเกี่ยวกับการกินอาหารในร้าน และไม่มีนักท่องเที่ยวมากเหมือนเดิม เปลี่ยนมาเป็นการขายของนำกลับบ้านและลูกค้าขาจรมากขึ้น

การปรับตัวให้เหมาะสมกับ สถานการณ์อย่างรวดเร็ว ด้วยการงัดกลยุทธ์ใหม่ได้แก่ 1) ปรับพื้นที่ บางส่วนของร้านเป็น After You Marketplace ซึ่งมีการวางจำหน่ายสินค้าใหม่สำหรับการซื้อกลับบ้าน เพื่อเพิ่มยอดขายต่อใบเสร็จ 2) เปิด cloud kitchen เพื่อสนับสนุนบริการ delivery 3) เน้นไปที่ร้านแบบ pop-up stores เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า และ 4) เปิดดำเนินการร้าน Mikka Cafe

กลยุทธ์ เหล่านี้น่าจะช่วยหนุนยอดขายของ AU และช่วยบรรเทาผลกระทบจากยอดขายที่ลดลงของลูกค้าที่ทานอาหารในร้าน ไม่ให้ลดลงมาก แต่ก็มีผลต่อกำไรที่เปลี่ยนเป็นขาดทุนต่อเนื่อง

การพยายามเดินหน้า กลยุทธ์ขยายแฟรนไชส์ Mikka Cafe ทั้งในแบบที่ถือหุ้นร่วมเอง และในแบบแฟรนไชส์ใหม่ โดยในระยะต่อไปบริษัทมีแผนจะเพิ่มจำนวนสาขาร้าน Mikka Cafe เป็น 100 ร้านภายในสิ้นปีนี้ และจะขยายเป็นประมาณ 500 สาขาทั่วประเทศในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ส่วนแบ่งรายได้จากร้านแบบใหม่นี้เพิ่มเป็น 10-15% ของรายได้รวมจากปัจจุบันที่มีจำนวนสาขาที่ระดับ 62 ร้าน ซึ่งคิดเป็น 2% ของรายได้รวมเท่านั้น

นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมเปิดแบรนด์อาหารใหม่เพิ่มอีกในไตรมาสสี่ ของ ปี 2564 ถึงต้นปี 2565 และการขยาย แฟรนไชส์ในฮ่องกง และจีน

สำหรับสาขา แบบ Franchise แห่งแรกในต่างประเทศอยู่ที่ฮ่องกง ที่น่าจะเปิดบริการอย่างเต็มรูปแบบได้ และคาดว่าจะขยายสาขาเพิ่มเป็น 5-8 ร้านภายในปี 2565/66 นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมจะเปิดสาขาแฟรนไชส์ร้านแรกในประเทศจีน ได้ในปีหน้าโดยตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจในต่างประเทศ จะคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 10% ของยอดขายรวม

ปีที่ผ่านไปของ AU จึงเป็นปีที่ตกต่ำและปรับตัวที่ส่งผลให้เกิดการขาดทุนหนักเป็นปีแรก และน่าจะปีเดียว แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงตกต่ำและปรับกลยุทธ์แล้ว น่าจะทำให้ปีนี้และปีต่อไปเป็นช่วงฟื้นตัวของรายได้และกำไร เนื่องจากมีมาตรการผ่อนคลายลง และเข้าสู่ช่วงเทศกาล น่าจะส่งผลบวกในไตรมาสสุดท้ายของปี ทำให้ผลประกอบการน่าจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้ รับแรงหนุนยอดขายของ AU น่าจะดีขึ้นในท้ายปี และ ต่อเนื่องถึงปี 2565 และ2566 ภายใต้เงื่อนไขธุรกิจที่พยายามกลับมาปกติ

แม้การปรับปรุงบางสาขาเป็น After You Marketplace มีการวางจำหน่ายสินค้าใหม่สำหรับซื้อกลับบ้าน เพื่อเพิ่มยอดขายต่อใบเสร็จในช่วงวิกฤต ถือเป็นการลดความเสี่ยง และการบริหารในสถานการณ์ไม่ปกติ จะไม่ทำให้วิกฤตลดลงมากนัก แต่ก็ถือว่า สร้างความเชื่อมั่นว่าผู้บริหารยัง “สู้ไหว” ช่วงที่ขนมหวานไม่ค่อยอร่อยลิ้น ทำให้นักลงทุนพากันตอบแทนด้วยการไม่ทิ้งหุ้นไม่ยอมให้ราคาหลุดไปใต้ระดับ 10.00 บาทได้นานเกิน 1 สัปดาห์

ความเชื่อมั่นทำนองนี้ หาเหตุผลมาอธิบายยากพิลึก แต่ต้องยอมรับเลยว่า นี้คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของหุ้นที่เคยมีฉายาว่า  “หุ้นน้ำแข็งใส” อย่าง AU ที่ราคาแกร่งจนน่าประหลาดใจ

รู้แล้วก็อย่าเอ็ดไป…เงียบ ๆ เข้าไว้…เดี๋ยวดีเอง

Back to top button