หุ้นโบรกผงาด

หุ้นโบรกเกอร์สลับกันขึ้นมาเดินพาเหรดอย่างสนุกสนาน พร้อมกับผุดสตอรี่ใหม่ ๆ ขึ้นให้ความหวังกับนักเล่นแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่เหมาะต่อการโหนกระแสอย่างแน่นอน


*หลังจากตลาดหุ้นไทยโดนเขย่าหนักเป็นรอบ ๆ ก็ทำให้เดี๊ยนรู้สึกอุ่นใจขึ้นในทันที เพราะมีแรงซื้อเข้ามารับหุ้นเมื่ออ่อนตัวเป็นจำนวนมาก จนดัชนีประคองตัวปิดไปที่ระดับ 1,672.63 จุด ลบไป 7.39 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.09 หมื่นล้านบาทอย่างสวยงาม ซึ่งเป็นภาพที่ “โมนิก้า” อยากให้เกิดขึ้นเร็ว ๆ เพื่อดัชนีจะได้เดินหน้าขึ้นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิมเสียที..ไม่เช่นนั้นดัชนีจะวนเวียนย่ำฐานแบบนี้ไปอีกนานพะยะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวเทียบได้กับหุ้นโบรกเกอร์ที่สลับกันขึ้นมาเดินพาเหรดอย่างสนุกสนาน พร้อมกับผุดสตอรี่ใหม่ ๆ ขึ้นให้ความหวังกับนักเล่นแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่เหมาะต่อการโหนกระแสอย่างแน่นอน เพราะอย่างน้อยก็เป็นการเปิดทางเลือกในการลงทุนให้กับขาลุย ขณะเดียวกันก็เป็นจังหวะของการเก็บหุ้นเพื่อลุ้นปันผลในคราวเดียวกัน จึงเชื่อได้ทันทีว่า หุ้นกลุ่มนี้ยังมีแก๊ปให้เล่นต่ออีกสักพักนะนายจ๋า!

*วันนี้จึงขอให้ความสำคัญกับหุ้นกลุ่มนี้มากเป็นพิเศษ เพราะมองในมุมของค่า PE ที่ยังไม่สูงจนน่าเกลียด และบางตัวก็มีพีอีต่ำกว่า 10 เท่า เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ความเสี่ยงในการเล่นค่อนข้างต่ำ เมื่อนำมาประมวลรวมกับกำไรปี 64 ที่ออกมาสวยเกือบทุกเจ้า จึงสมควรที่จะเป็นเรื่อง “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” สำหรับการเทรดวันแรกของสัปดาห์ไงล่ะคุณพี่!

*โดยเฉพาะในรายของหุ้น ASP ถือเป็นช็อตเด็ดที่ “โมนิก้า” นึกถึงเป็นประจำในยามที่เข้าสู่ฤดูกาลของการปันผล เพราะเมื่อดูอัตราผลตอบแทนย้อนหลังสักประมาณ 2 ปีจะเห็นว่า มีการจ่ายในอัตรา 5% อย่างต่ำ ผนวกกับกำไรในปี 64 ก็อยู่ในทิศทางที่เติบโต เดี๊ยนถึงเชื่อเหลือเกินว่า การยืนปิดที่ระดับ 3.96 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 780 ล้านบาท ก็ยังน่าเล่นนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของเจ้าพ่อ DW ซึ่งครองตลาดยาวนานอย่าง KGI ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในมุมของกำไรที่โตดีเหลือเกิน “โมนิก้า” จึงอยากให้แฟนคลับจับประเด็นปันผลในปี 63 อยู่ที่ 0.25 บาท ท่ามกลางกำไรต่อหุ้นทั้งปีอยู่ที่ 0.28 บาท ขณะที่ตัวเลขกำไรต่อหุ้น 9 เดือนปี 64 อยู่ที่ระดับ 0.77 บาท เงินปันผลจะอยู่ระดับไหน..ลองไปคิดกันดู และการยืนปิดที่ระดับ 6.90 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 872 ล้านบาท ยังน่าสนใจอ๊ะป่าว?

*คล้ายกับตัวแรงอย่างฟินันเซียฯ FSS ก็เป็นหุ้นที่น่าสนใจสุด ๆ สำหรับคนที่ชอบดูพัฒนาการใหม่ ๆ ผสานกับปีที่ผ่านมาก็ทำกำไรได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดอง “โมนิก้า” จึงเข้าใจเหตุผลที่ราคาหุ้นขึ้นไปถึง 9.60 บาท แต่สุดท้ายโดนทุบลงมาปิด 8.45 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 8.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 501 ล้านบาทอย่างถ่องแท้ ผนวกกับตอนนี้กำลังผุดโปรเจกต์คริปโตฯ เพื่อรับเทรนด์โลกใหม่แบบนี้ไงเล่า..ขาเม้าท์เลยแอดแวลูเข้าไปเพียบ..จริงหรือไม่..ลองถาม “พี่ช่วง” กันเอาเองนะคะ

*อีกรายที่มาแรงสุด ๆ คงเป็นรายของ CGH ภายใต้การกำกับบทของ “พี่ไมค์” ซึ่งเป็นกุนซือระดับขงเบ้งแบบนี้ เดี๊ยนจึงต้องซูฮกในความเก่งกาจที่สามารถดันลูกชายคนเล็กอย่าง “ทอมมี่” ขึ้นมาบัญชาการด้วยตนเอง เพราะการเดินหน้าลุยตลาดคริปโตฯ เป็นเจ้าแรก ๆ ย่อมได้เปรียบคู่แข่งหลายช่วงตัว จึงอยากให้นักเล่นประเมินการขึ้นมาปิดที่ 2 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.07 พันล้านบาท ยังเหลือแก๊ปให้เล่นต่อไหม?

*ในเมื่อมาแนวคริปโตฯ กันเป็นแถว ก็ไม่ต้องแปลกใจที่หุ้นอย่าง UOBKH โหนกระแสกับเขาด้วยเต็ม ๆ ผสานกับแบงก์แม่เพิ่งซื้อพอร์ตรายย่อยจากซิตี้แบงก์ เลยจิตนาการไปถึงขั้นที่ว่า นี่คือการต่อยอดทางลัดที่จะช่วยให้ในกลุ่มโตอย่างแข็งแกร่ง ราคาหุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.95 บาท บวกไป 2.05 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 180 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time high อย่างสบายเกือกแบบนี้..สงสัยซัดขวายาวอีกยกแน่ ๆ เจ้าค่ะ

*สำหรับรายที่ขึ้นมาผงาดไม่น้อยหน้าคนอื่นอย่าง GBX ก็เป็นช็อตที่นักเล่นให้ความสนใจอย่างล้นหลาม จนราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาชนซิลลิ่งตั้งแต่เที่ยง ก่อนจะโดนกดในชั่วโมงสุดท้าย หุ้นเลยลงมาปิดที่ 1.87 บาท เหลือบวก 0.27 บาท หรือขึ้นไป 16.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.46 พันล้านบาท ก็มองได้หลายมุมเหมือนกับรายข้างต้น “โมนิก้า” จึงอยากให้นักลงทุนประเมินสถานการณ์ต่อจากนี้ด้วยความระมัดระวัง เพราะการขึ้นแบบแท่งเขียวโด่เด่ มันบอกให้รู้ว่า นี่คือแหล่งชุมนุมพวกเดย์เทรดนะจะบอกให้

Back to top button