PTTEP ปัจจัยบวกเพียบ

ในไตรมาส 1/65 PTTEP มีกำไรสุทธิ 10,519 ล้านบาท ลดลง 9% จากไตรมาส 1/64 ที่มีกำไรสุทธิ 11,533 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการขาดทุน Oil Hedging


คุณค่าบริษัท

ในไตรมาส 1/2565 บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP มีกำไรสุทธิ 10,519 ล้านบาท ลดลง 9% จากไตรมาส 1/2564 ที่มีกำไรสุทธิ 11,533 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการขาดทุน Oil Hedging ที่สูงถึง 8,200 ล้านบาท แต่ถ้าไม่รวมรายการดังกล่าว PTTEP จะมีกำไรปกติราว 18,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 128% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 46%  จากไตรมาสก่อน หลัก ๆ มาจากปริมาณการขายที่สูงขึ้นและราคาขายเฉลี่ย (ASP) ที่ดีขึ้น

ขณะที่ในไตรมาส 2 คาดจะเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกจาก 1) ราคาน้ำมันที่ทรงตัวสูงจากอุปทานตึงตัวจากสงครามรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ และการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปต่อรัสเซีย โดยคาดว่าราคาน้ำมันปีนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 90-130 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

2) ยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีปริมาณการขายอยู่ที่ 4.67 แสนบาร์เรลต่อวัน เทียบกับไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 4.27 แสนบาร์เรลต่อวัน และคาดเฉลี่ยทั้งปีนี้ จะอยู่ที่ 4.67 แสนบาร์เรลต่อวัน หนุนจากโครงการ Oman block 61, โครงการเอราวัณ, โครงการบงกช และโครงการ Algeria HBR ทั้งนี้ คาดว่าราคาก๊าซฯ ไตรมาส 2/2565 จะอยู่ที่ 6.2 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู และทั้งปีนี้เฉลี่ย 6.4 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู

และ 3) คุมต้นทุนให้อยู่ในระดับต่ำ โดยในปีนี้ PTTEP จะรักษาระดับต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) ที่ 28-29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ และอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) จะอยู่ในช่วง 70-75%

นอกจากนี้ ช่วงปลายไตรมาส 1/2565 PTTEP ได้ปรับมูลค่าสัญญา Oil Hedging ที่ 98 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งหากอ้างอิงราคาน้ำมันปัจจุบัน จะทำให้ขาดทุน Oil Hedging ลดลง และอาจพลิกเป็นกำไร Oil Hedging หากราคาน้ำมันต่ำกว่า 98 เหรียญต่อบาร์เรล ในปลายไตรมาส 2/2565 และจะทำให้กำไรสุทธิกลับมาเติบโตได้เช่นกัน

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น PTTEP ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 15.89 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 19.04 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายใกล้เคียงตลาด เช่นเดียวกับ P/BV ที่ระดับ 1.46 เท่า ถือว่าใกล้เคียงค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.68 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 163.25 บาท จากราคาต่ำสุด 152.00 บาท และราคาสูงสุด 185.00 บาท

รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่

  1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 2,532,340,489 หุ้น 63.79%
  2. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 292,036,543 หุ้น 7.36%
  3. SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED 102,963,076 หุ้น 2.59%
  4. STATE STREET EUROPE LIMITED 96,222,376 หุ้น 2.42%
  5. บริษัท สยาม แมนเนจเม้นท์ โฮลดิ้ง จำกัด 59,520,000 หุ้น 1.50%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการ
  2. นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
  3. นายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ กรรมการ
  4. นายพชร อนันตศิลป์ กรรมการ
  5. นายอธิคม เติบศิริ กรรมการ
  6. นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ กรรมการ
  7. นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท กรรมการ
  8. พล.ร.อ.ธนะรัตน์ อุบลรอง ประธานกรรมการอิสระ
  9. น.ส.เพ็ญจันทร์ จริเกษม กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
  10. นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ กรรมการอิสระ
  11. พลโท นิมิตต์ สุวรรณรัฐ กรรมการอิสระ
  12. นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  13. นางอังครัตน์ เพรียบจริยวัฒน์ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  14. นายวิรไท สันติประภพ กรรมการอิสระ
  15. นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  16. นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ กรรมการตรวจสอบ

Back to top button