LPH เปล่งรัศมี!

การกลับมาแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ BA.4 และ BA.5 ทำให้หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลได้รับความสนใจอีกครั้ง เนื่องจากมองว่าผลประกอบการจะยังคงเติบโต


คุณค่าบริษัท

การกลับมาแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ BA.4 และ BA.5 ทำให้หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลได้รับความสนใจอีกครั้ง เนื่องจากมองว่าผลประกอบการจะยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง จากจำนวนผู้ป่วยโควิดที่กลับมาเป็นขาขึ้น หนึ่งในนั้นคือบริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH ที่จะได้รับอานิสงส์ดังกล่าว

ทำให้คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2565 จะเติบโตได้ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับโควิดขยายตัวเกิน 10% ของพอร์ตรวม  โดยปัจจุบัน LPH ได้กลับมาขยายเตียง Hospitel เพิ่มอีกครั้ง และมีเตียงบริการรวม 300 เตียง อัตราการครองเตียง 100% แต่มีระยะเวลาในการรักษาน้อยลงเหลือ 5 วัน

ขณะที่ ผู้ป่วยภาคปกติมีการฟื้นตัวที่ดีต่อเนื่อง ทำให้ผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ยังคงมีอัตราใช้บริการที่สูง

อย่างไรก็ตาม แม้ช่วงที่เหลือของปีนี้ ผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับโควิดอาจลดลง แต่ผู้บริหารมั่นใจว่ารายได้จะยังเติบโตได้ต่อ จากการปรับกลยุทธ์มาเจาะกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติที่ฟื้นตัวกลับมา หลังจากการเปิดประเทศ โดยเฉพาะชาวอาหรับและชาวกัมพูชา ที่เดินทางมาตรวจสุขภาพประจำปีและรักษาโรคประจำตัว เป็นต้น เบื้องต้นประเมินรายได้รวมจากลูกค้ากลุ่มนี้ไว้ที่ 100-120 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนเกิดโควิดที่มีรายได้อยู่ที่ 80 ล้านบาท

ส่วนผู้ป่วยประกันสังคมยังมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อ จากโควตาใหม่รับผู้ป่วยประกันสังคมเพิ่มกว่า 30,000 ราย โดย ณ ไตรมาส 2/2565 เครือโรงพยาบาลมีฐานผู้ป่วยประกันสังคมมากกว่า 170,000 ราย อีกทั้งได้ลงทุนศูนย์ประกันสังคมบนพื้นที่ 2 ไร่ ตรงข้ามโรงพยาบาล เพื่อบริการทางการแพทย์ หรือบริการเสริมเกี่ยวข้องอื่น ๆ กำหนดเปิดให้บริการในเดือน ก.ย. 2565 นี้

รวมทั้งการขยายโรงพยาบาลตรวจสุขภาพขนาดเล็กเพิ่มอีก 2 สาขา หลังจากเปิดสาขาแรกที่ จ.อยุธยา โดยจะเปิดที่ จ.นครราชสีมา กำหนดเปิดบริการในเดือน ส.ค. 2565 นี้ และในพื้นที่พัฒนาระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทรา กำหนดเปิดในเดือน ก.ย. 2565 คาดภายใน 1-2 ปี จะสามารถสร้างรายได้แห่งละ 100 ล้านบาท

จากปัจจัยข้างต้นทำให้มั่นใจว่าในปี 2565 จะมีรายได้จากการให้บริการทางการแพทย์รวมเติบโต 20-25% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีรายได้รวม 1,814.63 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ​เติบโตมากกว่าปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ​ 142.89 ล้านบาท เนื่องจากฐานผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน​กลับสู่ภาวะปกติ ทั้งผู้ป่วยเงินสด และผู้ป่วยประกันสังคม

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น LPH ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 7.25 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.05 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาดหลายเท่าตัว แต่อย่างไรก็ตามถ้าดู P/BV ที่ระดับ 2.26 เท่า ก็อาจสูงว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1-2 เท่า

รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่

  1. บริษัท แอล.พี.โฮลดิ้ง จำกัด 220,064,500 หุ้น 30.56%
  2. บริษัท แอล.พี โฮลดิ้ง จำกัด (สำนักงานใหญ่) 39,958,400 หุ้น 5.55%
  3. นายพิพัฒน์ เศวตวิลาศ 37,543,684 หุ้น 5.21%
  4. บริษัท เอ็นซีเอช 2555 โฮลดิ้ง จำกัด 34,749,880 หุ้น 4.83%
  5. นายอังกูร ฉันทนาวานิช 26,656,600 หุ้น 3.70%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายสมศักดิ์ โล่เลขา ประธานกรรมการ
  2. นายพิพัฒน์ เศวตวิลาศ รองประธานกรรมการ
  3. นายอังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
  4. นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการ
  5. นางวิชชุดา อำพรผล กรรมการ
  6. นายวิรัตน์ วงศ์แสงนาค กรรมการ
  7. นายพิบูลย์ ลิมประภัทร กรรมการอิสระ ประธานกรรมการตรวจสอบ
  8. นางเบ็ญจวรรณ ธนไพศาลพิพัฒน์ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  9. นายกุณฑล นาคพรหม กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  10. น.ส.ทิพวรรณ อุทัยสาง กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ

Back to top button