หุ้นเล็กชนะตลาด!

การเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นไทยคงไม่ตื่นเต้นไปมากกว่านี้อีกแล้ว เพราะตลาดหุ้นซึมซับข่าวร้ายมาเยอะพอสมควร


การเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นไทยคงไม่ตื่นเต้นไปมากกว่านี้อีกแล้ว เพราะตลาดหุ้นซึมซับข่าวร้ายมาเยอะพอสมควร รวมทั้งผลประกอบการของหุ้นแบงก์ที่ประกาศออกมาก็ดีเกินคาด จึงทำให้โมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยอยู่ในลักษณะแกว่งตัวรอเวลาขึ้นอีกครั้ง โมนิก้า” จึงต้องสรรหาทางเลือกใหม่ ๆ สำหรับการเล่นหุ้นในช่วงกำลังประกาศงบ และในที่สุดก็ค้นพบทางสว่างว่า สำรวจหุ้นชนะตลาดในช่วงเดือน ก.ค. ดีกว่าเจ้าค่ะ

เนื่องจากเมื่อเทียบเคียงกับดัชนีช่วงสิ้นเดือน มิ.ย. ที่อยู่ในระดับ 1,568.33 จุด กับการยืนปิดของดัชนีวานนี้ที่ระดับ 1,560.31 จุด บวกไป 7.58 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.77 หมื่นล้านบาท ก็จะเห็นว่า ตัวเลขคร่าว ๆ ดัชนีติดลบ 0.50% ขณะที่หุ้นใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นดีสุด ก็ให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับ 5% ส่วนกลุ่มหุ้นเล็กกลับทำผลตอบแทนสุดหรูกันเป็นแถว ซึ่งบางรายปั่นรีเทิร์นขึ้นไปถึงระดับ 60% เลยนะจ๊ะ

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้หุ้นเล็กกลายเป็นดาวเด่นขึ้นมาทันที ผนวกกับมีสตอรี่เกี่ยวกับโตสวนเศรษฐกิจชะลอตัว จึงกลายเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องไล่เรียงหุ้นแต่ละตัวแบบละเอียดยิบ ผสานกับช่วงเวลาแบบนี้ต้องเล่นสั้นไว้ก่อน จึงกลายเป็นเรื่องที่ท้าทายความไวของนักเล่นเดย์เทรดอย่างแท้ทรู! เดี๊ยนจึงขอบรรยายถึงหุ้นตัวจี๊ดไปทีละตัว เพื่อแฟนคลับขาลุยจะได้มีเวลาไตร่ตรองว่า สมควรที่จะตามน้ำไหม?…อิอิอิ

โดยเฉพาะการไล่ราคาแบบบ้าดีเดือดที่เกิดขึ้นกับหุ้น SPACK กลายเป็นช็อตที่ทำให้เห็นว่า สถานการณ์ตอนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ แถมเมื่อย้อนกลับไปดูราคาหุ้นเมื่อปลาย มิ.ย. อยู่ที่ระดับ 2.22 บาท เทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ระดับ 4.82 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 388 ล้านบาท ก็จะเห็นว่าราคาถีบตัวขึ้นมาถึง 117% ท่ามกลางอะไรหลายอย่างยังไม่ชัดเจนแบบนี้..เสียวดีไหมล่ะคะ

เช่นเดียวกับเคสของ THANA พุ่งขึ้นจากระดับ 2.46 บาท ท่ามกลางความหวังกำไรไตรมาส 2 โตต่อ จนราคาหุ้นขึ้นไปทำไฮที่ระดับ 4 บาท ต่อจากนั้นโรยตัวลงมาเป็นช่วง ๆ โดยวานนี้ยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 3.48 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 70 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเทรดบน PE 21 เท่าแบบนี้ มันเป็นช็อตที่ทำให้ขาลุยยังมีความหวังว่า หุ้นยังมีโอกาสไปต่อ แต่ถ้ามองจากเหตุการณ์ในช่วง 1 เดือนหุ้นขึ้นมา 41% ก็ต้องลุ้นหนักหน่อยค่ะ

ส่วนรายที่ถูกปั่นเป็นช่วง ๆ ตามอารมณ์เจ้ามือ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น TEAM หลังโดนรินขายจนราคาต่ำกว่า 3.28 บาท แต่หลังจากนั้นก็ถูกดันพรวดพราดในเวลาไม่กี่วัน พร้อมกับมีการเขย่าแรงตามหลังมาติด ๆ ก่อนจะขึ้นไปทำไฮที่ระดับ 4.82 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นยืนปิดที่ระดับ 4.48 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 1.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37 ล้านบาท ก็ทำให้รู้ว่า หุ้นตัวนี้มาด้วยวิธีพิเศษ เพราะหนึ่งเดือนที่ผ่านมาหุ้นขึ้น 36% พะยะค่ะ

สุดจัดของจริงต้องยกให้ WGE เพราะเป็นหุ้นที่ “มาเร็ว มาแรง” พร้อมกับสตอรี่ไตรมาส 2 โตแรง ซึ่งเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ช่วงกลางเดือนราคาหุ้นกระชากขึ้นแรง จนราคาหุ้นขึ้นไปปิดไฮที่ระดับ 1.91 บาท แต่หลังจากนั้นก็โรยตัวลงตามระเบียบ ก่อนวานนี้จะยืนปิดที่ระดับ 1.60 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 8.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 74 ล้านบาท ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า หุ้นเล็กตัวนี้เคลมเร็วเหลือเกินนะจะบอกให้

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้น TRV ซึ่งมีการซื้อขายที่คึกคักเป็นช่วง ๆ กันสักหน่อย แถมเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มสงครามวันเดียว เดี๊ยนถึงมองว่า เดี๋ยวจะมีการดันราคากันอีกรอบ เพราะราคาหุ้นยังไม่ทรุดฮวบแบบปิดเกม แถมในระหว่างทางยังมีการเคาะขวานำในบางจังหวะ จึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ 3.04 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 12 ล้านบาท เหมาะสำหรับพวกเบี้ยน้อยหอยน้อยจริงไหมจ๊ะ

ตบท้ายกันที่หุ้น HENG กันดีกว่า เพราะการที่ราคาหุ้นพุ่งพรวดขึ้นมาปิด 3.42 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 9.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 359 ล้านบาท เทียบกับราคาปลายเดือน มิ.ย. ที่อยู่ในระดับ 3.10 บาท ก็ทำให้หุ้นตัวนี้กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงขึ้นมาทันที ผนวกกับคาดการณ์กันว่า กำไรไตรมาส 2 จะโตเกิน 80% จึงทำให้ PE ที่เทรดในระดับ 33 เท่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องวอรี่เลยพะยะค่ะ

Back to top button