ครึ่งเดือนฝรั่งซื้อ 3 หมื่นล้าน

ในเมื่อฝรั่งเดินหน้าซื้อหุ้นไทยแบบเต็มตัว “โมนิก้า” จึงขอหยิบยกเรื่องราวความเป็นมาของฝรั่งมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง


ในเมื่อฝรั่งเดินหน้าซื้อหุ้นไทยแบบเต็มตัว “โมนิก้า” จึงขอหยิบยกเรื่องราวความเป็นมาของฝรั่งมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง เพราะสิ่งที่สะท้อนออกมาทำให้รู้ว่า เป้า 1,650 จุดไม่ไกลเกินเอื้อม และมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นไปทดสอบเป้า 1,700 จุดในไม่ช้า ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้เดี๊ยนต้องไปไล่ไทม์ไลน์ตั้งแต่ต้นปี 65 มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่เท่าไหร่? และมีความเป็นไปได้ที่จะซื้อต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีอ๊ะป่าว?

โดยข้อมูลที่ “โมนิก้า” เห็นเต็มสองลูกตาคือ เมื่อวันก่อนฝรั่งซื้อหุ้นไทยไป 5 พันล้าน ถัดมาวานนี้ซื้อไปอีก 5.70พันล้าน ขณะที่ตัวเลขครึ่งเดือนซื้อไปเกือบ 3.50 หมื่นล้าน และเมื่อนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้ก็มียอดซื้อรวม 1.52 แสนล้าน จึงเชื่อได้ทันทีว่า ปีนี้น่าจะมียอดซื้อสุทธิราว 2 แสนล้าน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกิดขึ้นเป็นประจำในยามที่ฝรั่งกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยแบบจริงจังไงละคะ

ประกอบกับหลายคนมองว่า เศรษฐกิจของประเทศจะฟื้นตัวต่อเนื่องไปถึงสิ้นปี หลังจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งปัญหาหลายอย่างก็คลี่คลายไปทีละเปลาะ จึงทำให้หุ้นบลูชิพกลับมามีบทบาทมากขึ้น และการที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,639.72            จุด บวกไป 9.77 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.46 หมื่นล้านบาท ก็เป็นจุดที่ชี้ชัดถึงหุ้นไทยกำลังล้อไปกับกระแสโลกที่เข้าสู่โหมดของการซื้อรอบใหม่เจ้าค่ะ

เรื่องราวดังกล่าวเห็นได้จากแรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นตราใบโพธิ์ SCB จนราคาหุ้นไต่เพดานขึ้นมาปิดที่ 108 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.56 พันล้านบาท มันคือเครื่องการันตีว่า หุ้นตัวนี้ยังเป็นเป้าหมายหลักของฝรั่งทุกยุคทุกสมัย ผนวกกับความสามารถในการทำกำไรยังยอดเยี่ยม รวมทั้งบุ๊กแวลูของหุ้นก็อยู่สูงถึง 132 บาท จึงไม่มีอะไรน่ากังวลสำหรับคนที่เน้นลงทุนยาว ๆ พะยะค่ะ

ในเมื่อฝรั่งคัมแบ็คแบบเต็มตัว เดี๊ยนคงต้องมองไปที่พี่เบิ้มของตลาดหุ้นอย่าง PTT แบบไร้ข้อสงสัยทุกประการ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า นี่เป็นหุ้นที่ฝรั่งถือเยอะ และการที่หุ้นขยับขึ้นจากก้นเหวที่บริเวณ 33 บาทอย่างช้า ๆ จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 37.75 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.36 พันล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 9.30 เท่า จึงทำให้รู้ว่า หุ้นมีโอกาสไปต่อสูงมาก ๆ และอย่างน้อยก็น่าจะได้เห็นแถว 40-41 บาทนะนายจ๋า!

สำหรับตัวความหวังที่ให้ราคาจนโอเว่อร์อย่างหุ้น AOT กลายเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เดี๊ยนมองโลกของการลงทุนแบบสุดโต่งเป็นอย่างนี้เอง! เพราะสิ่งที่เห็นในวันนี้คือกำไรยังไม่มาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ราคาหุ้นกลับไต่เพดานขึ้นไปเรื่อย ๆ จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ 72 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 0.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.57 พันล้านบาท ท่ามกลางบุ๊กที่ระดับ 7.18 บาท และหุ้นเทรดบน PBV 10 เท่าแบบนี้..แสดงว่า ใจคนเล่น ต้องได้จริง ๆ..อิอิอิ

ส่วนรายที่เตรียมคัมแบ็คอย่างหุ้น TU เขาว่ากันว่า หากเคลียร์ธุรกิจที่ต่างประเทศได้เรียบร้อย และแก้ปัญหาเรื่องราคากระป๋องได้สำเร็จ รับรองราคาหุ้นพุ่งกระฉูดอย่างแน่นอน “โมนิก้า” จึงสงสัยว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 17.80 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 937 ล้านบาท น่าจะมีข่าวดีบางอย่างซัพพอร์ตหรือเปล่า? เดี๊ยนถึงมองว่า หุ้นตัวนี้น่าสนใจในแง่ของสตอรี่ในอนาคตน่าจะแจ่มเจ้าค่ะ

อีกรายที่ถีบตัวขึ้นสองวันติด และมีแนวโน้มที่จะได้ไปต่อ “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปที่หุ้น RBF หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 14.50 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 212 ล้านบาท ก็เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่นักเล่นให้แวลูในอนาคตมากเป็นพิเศษ ผนวกกับการได้พาร์ทเนอร์ข้างต้นเข้ามาต่อยอดธุรกิจ จึงเชื่อว่า ปลายปีนี้น่าจะมีการโชว์ทีเด็ดออกมาให้เห็นพะยะค่ะ

ตบท้ายกันที่หุ้นปั่นระดับเทพอย่าง CPR กันดีกว่า เพราะกระแสข่าวที่เม้าท์กันให้แซ่ดเที่ยวนี้พุ่งเป้าไปยัง “ภว” ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องระบือในการยกหุ้นแบบไม่เกรงกลัวใคร เพราะถือว่าก๊วนของตัวเองค่อนข้างบิ๊กเบิ้ม รวมทั้งในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นเด็กเชียร์แขกให้กับหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง “โมนิก้า” จึงไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นพุ่งพรวดขึ้นมาปิดไฮที่ระดับ 8.90 บาท บวกไป 2.05 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 755 ล้านบาท เพราะวันนี้ก็คงยกอีกรอบแหง๋ ๆ เจ้าค่ะ

Back to top button