หุ้นเล็กทรงวี

วันนี้ “โมนิก้า” ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาเม้าท์ถึงหุ้นเล็กเพื่อเพิ่มอรรถรสในการลงทุนสักหน่อย เพราะสตอรี่ที่ทุกคนรับรู้กันอย่างแพร่หลายก็คือ ปีนี้เป็นปีของหุ้นใหญ่ที่เกี่ยวกับท่องเที่ยวแบบจัดเต็ม


วันนี้ “โมนิก้า” ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาเม้าท์ถึงหุ้นเล็กเพื่อเพิ่มอรรถรสในการลงทุนสักหน่อย เพราะสตอรี่ที่ทุกคนรับรู้กันอย่างแพร่หลายก็คือ ปีนี้เป็นปีของหุ้นใหญ่ที่เกี่ยวกับท่องเที่ยวแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น สนามบิน สายการบิน โรงแรม และค้าปลีก ล้วนได้รับผลดีจากเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจสะพัดอีกรอบ จึงกลายเป็นหุ้นที่ทะยานขึ้นแรงตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายของปี 65 และยังแรงต่อเนื่องมาถึงปี 66 พะยะค่ะ

ประกอบกับประเด็นดังกล่าวได้เม้าท์มอยไปหมดแล้ว “โมนิก้า” จึงขอสลับอารมณ์ไปดูหุ้นเล็กทรงวี เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้กับรายย่อย ผสานกับหุ้นดังกล่าวกำลังอยู่ในช่วงขยับขึ้นรอบใหม่ จึงทำให้รูปแบบการเคลื่อนตัวเป็น V-Shape และคาดหวังการขึ้นเที่ยวนี้จะไปถึงยอดเดิมที่เคยขึ้นไปเสียด้วย เดี๊ยนถึงอยากนำเสนอประเด็นนี้แก่แฟนคลับขาลุยที่มองเป้า 1,700 จุดไม่ไกลเกินเอื้อมไงล่ะคะ

ฉะนั้นการที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,678.97 จุด บวกไป 10.31 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.49 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นตัวเร่งให้ “โมนิก้า” ต้องหันมาดูหุ้นเล็กเหล่านี้แบบเกาะติดขอบเวที เพราะสตอรี่ที่ทำให้หุ้นกลับมาเฉิดฉาย ล้วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเทิร์นอะราวด์ จึงต้องชิงลงมือเคาะขวาก่อนคนอื่น เพราะมีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นจะพักตัว เพื่อทดสอบแรงขายสักระยะหนึ่งก่อน ต่อจากนั้นจะเริ่มถีบตัวขึ้นใหม่เจ้าค่ะ

โดยเฉพาะในรายของหุ้นเครื่องกรองน้ำ TSR ถือเป็นช็อตเด็ดที่บรรดาขาลุยต้องเกาะติดเป็นพิเศษ หลังมีการฟันธงว่า กำไรไตรมาส 4 โตสุดเป็นประวัติการณ์ และในปีนี้จะทำสถิติโตอีก “โมนิก้า” ถึงมองการขยับขึ้นเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ ต้องมีนัยแอบแฝงอย่างแน่นอน เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 4.14 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 7.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 76 ล้านบาท ไม่ได้มาเล่น ๆ จ้า

เช่นเดียวกับในรายของ TKS ขยับขึ้นอย่างร้อนแรงวันแรก ก็มีประเด็นให้ติดตามเยอะอีกเช่นกัน เพียงแต่เที่ยวนี้เป็นเรื่องของการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อให้กับทุกพาร์ตเนอร์ จึงกลายเป็นพลังผนึกที่ยิ่งใหญ่ และมีอิมแพ็คเยอะพอสมควร “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า การยืนปิดที่ระดับ 13.40 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 257 ล้านบาท คือใบเบิกทางสำหรับการแรลลี่ยาวนะจะบอกให้

ส่วนรายที่ไล่ราคา และมีการเขย่าเบา ๆ ก่อนจะดันขึ้นอีกครั้ง “โมนิก้า” คงมองไปที่น้องสวย BEAUTY เป็นรายถัดมา เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.49 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 7.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 221 ล้านบาท ล้วนเป็นผลมาจากจีนเปิดประเทศ จึงคาดหวังกำไรไตรมาสนี้จะกระตื้องขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นโอกาสของการเล่นตามน้ำสำหรับที่มีความไวในการ “เคาะขวา เคาะซ้าย” นะออเจ้า

ในเมื่อเม้าท์ถึงหุ้นเล็กทรงวีขึ้นมาทั้งที ก็ต้องเอ่ยถึงหุ้นตัวตึงอย่าง PLUS เพื่อเป็นทางเลือกให้กับขาเทรดด้วยเช่นกัน เพราะมองในมุมโกรทเป็นลำดับแรก ก็ยังเป็นตัวเต็งสำหรับรายย่อยวันยันค่ำ หรือมองในมุมเล่นเพื่อหวังผลในการปั้นพอร์ต ก็คาดหวังที่จะได้เห็นยอดเดิมที่บริเวณ 11.80 บาทได้อีก เดี๊ยนถึงมองการขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.90 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 5.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 99 ล้านบาท น่าเล่นเจ้าค่ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นขายยาอย่าง IP ขึ้นมาในทันที เพราะเมื่อดูจากรูปทรงการเคลื่อนตัวที่เป็นแบบ V-Shape มันกลายเป็นประเด็นที่ทำให้เชื่อว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 15.30 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42 ล้านบาท คือจุดเริ่มต้นของการเล่นยาว ๆ โดยจุดแรกที่คาดหวังได้อย่างเต็มที่คงอยู่แถว 18 บาท ต่อจากนั้นอาจได้เห็น 20 บาทก็เป็นไปได้..หากบรรยากาศเป็นใจนะจ๊ะ

คล้ายกับสถานการณ์ของร้านหมอฟัน D ก็ทะยานขึ้นมาอย่างช้า ๆ ก่อนระเบิดฟอร์มใหญ่ด้วยการพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 6.20 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24 ล้านบาท พร้อมกับความคาดหวังที่จะเห็นราคาหุ้นขึ้นไปป้วนเปี้ยนแถว 8 บาทอีกรอบ คงต้องขึ้นอยู่กับต่างชาติเข้ามาทำฟันเยอะขนาดไหน? เพราะตัวเลขตรงนี้จะเป็นตัวบอกใบ้กำไรที่จะเข้ามาในไตรมาสนี้ไงล่ะคะ

Back to top button