หุ้นที่น่าเล่น?

ดูเหมือนบรรยากาศลงทุนที่ดูสดใสแช่มชื่นในคราวนี้ น่าจะเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของจอมป่วนตลาดหุ้นอย่าง DELTA เสียมากกว่า


ดูเหมือนบรรยากาศลงทุนที่ดูสดใสแช่มชื่นในคราวนี้ น่าจะเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของจอมป่วนตลาดหุ้นอย่าง DELTA เสียมากกว่า จึงทำให้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ภาพมายา ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ เข้ามาตะลุมบอนกันอย่างขวักไขว่ และทำให้ดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,684.04 จุด บวกไป 6.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.24 หมื่นล้านบาท แบบงงกันทั้งบางไงล่ะคะ

โดยเฉพาะในรายของ DELTA ถือเป็นหุ้นที่เปิดช่องให้พวกสถาบันเข้าใส่ไม่ยั้ง เพราะหลังจาก ตลท. แก้เกณฑ์การคำนวณเข้า SET50 ใหม่ปุ๊บ ก็ทำให้ราคาหุ้นทะยานขึ้นแรงแบบไม่เหลียวหลังกันเลยทีเดียว แม้ในบางจังหวะจะมีการเขย่าหุ้นแรงให้เห็นเป็นระยะ แต่หุ้นก็เด้งกลับขึ้นมาได้เป็นประจำ “โมนิก้า” จึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 890 บาท บวกไป 30 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.50 พันล้านบาท เพราะมันกลายเป็นหุ้นที่สถาบันต้องมีไปโดยปริยาย ทั้งที่ตอนนี้ราคาโอเว่อร์แวลูไปมากเจ้าค่ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเจียดพื้นที่ให้กับหุ้นที่อันเดอร์แวลูอย่างแบงก์สีฟ้า KTB เพื่อชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างราคาเป้าหมายที่ระดับ 24 บาท เทียบกับการยืนปิดที่ระดับ 17.70 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.14 พันล้านบาท โดยสตอรี่ที่จะเป็นตัวดันหุ้นยังอยู่ที่การโกรทเป็นหลักแบบนี้..จึงกลายเป็นจังหวะที่น่าตามไปดูแบบไม่ต้องอิดออดนะจะบอกให้

ส่วนรายที่น่าจะถูกปั่นแรงด้วยเรื่องเงินสะพัด “โมนิก้า” คงต้องให้ความสำคัญกับหุ้น CPALL อีกครั้ง เพราะการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 69.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 1.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.54 พันล้านบาท มันเหมือนเป็นภาพที่นักเล่นมั่นใจว่า ผลงานต่อจากนี้จะโตกระฉูด จึงเข้ามาไล่ราคาหุ้นตลอดทั้งวัน จนทำให้เชื่อว่า หุ้นจะกลับขึ้นไปทดสอบยอดเดิมที่บริเวณ 74 บาทอีกครั้งนะนายจ๋า!

เช่นเดียวกับในรายของ SABUY ก็มีเรื่องของพลังผนึกในกลุ่มพันธมิตรเป็นแรงขับเคลื่อน และดูเหมือนว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ทุกอย่าง “ผลิดอก ออกผล” อย่างเต็มที่ จึงทำให้ราคาหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ระดับ 13.40 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 548 ล้านบาท ผนวกกับเดี๊ยนเห็นหุ้นเทรดอยู่แค่ระดับ PE 20 เท่า เลยทำให้เชื่อว่า หุ้นยังมีแก๊ปไปต่ออีกเพียบพะย่ะค่ะ

อีกรายที่ได้ชื่อว่า ปีทองของเขาอย่างแท้จริง! คงต้องมองไปที่หุ้นท้องฟ้าสีครามอย่าง SKY เพราะการที่หุ้นพุ่งขึ้นมาปิดในระดับ 19.10 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 191 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time high เป็นที่เรียบร้อยแบบนี้ “โมนิก้า” ฟันธงได้เลยว่า หุ้นคงไม่หยุดแค่นี้แน่ ๆ เพราะเมื่อดูจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไหลบ่าเข้าประเทศไทยต่อเนื่อง เพียงแค่นี้ก็รู้ได้ทันทีว่า โตกระหึ่ม!

ส่วนหุ้นเล็กที่ “มาดี มาสวย มาแรง” ต้องมองไปที่หุ้น PSG เพราะปีนี้จะถูกปูด้วยเรื่องโกรทสต๊อกเป็นหลัก จึงกลายเป็นช็อตที่ทำให้เชื่อว่า ยอดเก่าที่บริเวณ 1.60 บาทไม่น่าจะไกลเกินเอื้อม เนื่องจากโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่กรุยทางไว้เมื่อปีก่อนจะเริ่มแสดงผล ผนวกกับมีคำร่ำลือในทำนองที่ว่า ปีนี้จะโปรเจกต์ใหม่เข้ามาอีก ส่งผลให้พวกนกรู้เข้ามาไล่ราคาอย่างเมามัน จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.33 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 128 ล้านบาทไงล่ะคะ

เช่นเดียวกับในรายของ BBIK ถูกดันขึ้นมาปิดที่ระดับ 134 บาท บวกไป 7.50 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 127 ล้านบาท ก็มาจากเรื่องการเติบโตเป็นประเด็นสำคัญ แถมได้แรงหนุนจากเรื่องสว็อปหุ้นราคาสูงคอยค้ำยัน “โมนิก้า” จึงไม่แปลกใจที่หุ้นเทคตัวนี้กำลังติดลมบนแบบสุด ๆ และถ้ามองการบุกเวียดนามในช่วงที่ทุกอย่างกำลังเป็นใจ ก็เป็นช็อตที่ทำให้แวลูของหุ้นตัวนี้เพิ่มขึ้นแน่นอนค่ะ

สำหรับคนที่ชอบหุ้นแนว “เทิร์นอะราวด์” คงต้องมองไปที่หุ้น DOD เพื่อไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบลุ้นเป็นชีวิตจิตใจ เพราะหลังจากจัดโครงสร้างบริษัทด้วยการตัดบางธุรกิจออกไป และเดินหน้าลุยธุรกิจอาหารเสริมแบบเต็มตัว ก็ทำให้ออเดอร์สินค้าไหลเข้ามาเรื่อย ๆ และการขยับก้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 5 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 27 ล้านบาท ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับพวก “เบี้ยน้อย หอยน้อย” นะจ๊ะ

Back to top button