บจ.แห่ขายหุ้นกู้ขยายธุรกิจ – คืนหนี้

บจ.ที่เสนอขายหุ้นกู้เหล่านี้ถือเป็นบริษัทที่มีระดับความน่าเชื่อถือในเกรดที่ดี จึงน่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุน


เส้นทางนักลงทุน

ในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2566 นี้ บริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะมีการออกและเสนอขายหุ้นกู้จำนวนมากจากทั้งบริษัทขนาดใหญ่และขนาดกลาง เป็นการเสนอขายให้กับทั้งนักลงทุนทั่วไป ตลอดจนนักลงทุนสถาบันและรายใหญ่ ให้ผลตอบแทนระหว่าง 2.94-6.10%

การลงทุนในหุ้นกู้อาจมีความเสี่ยงหากบริษัทนั้น ๆ มีฐานะการเงินไม่มั่นคง ซึ่งมีความเสี่ยงหากเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง การเลือกลงทุนในบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับที่ดีจึงน่าจะปลอดภัยที่สุด

สำหรับหุ้นกู้ที่เตรียมออกและเสนอขายในระยะเวลาอันใกล้นี้ เช่น บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เตรียมเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 3 รุ่น อายุ 4 ปี อายุ 7 ปี และอายุ 12 ปี ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบันมีอัตราดอกเบี้ยระหว่าง 2.95-4.35% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน

ทั้งนี้ จะเสนอขายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 หุ้นกู้ชุดนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566

ในปีนี้ CPALL มีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 700 สาขา ในรูปแบบร้านเดี่ยว (Standalone) เน้นร้านขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่จอดรถหน้าร้าน ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศ คาดว่าในปี 2566 จะเริ่มเห็นสาขาของ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ในสปป.ลาว ขณะที่ในประเทศกัมพูชามีการเปิดสาขาไปแล้วกว่า 40 สาขา และยังจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2565 มีสาขา “เซเว่น อีเลฟเว่น” เปิดให้บริการแล้วมากกว่า 13,000 สาขา

สำหรับบมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ MINT23PA ครั้งที่ 1/2566 หรือหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (perpetual bond) ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด และมีสิทธิเลื่อนชำระดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ชำระคืนเงินต้นเพียงครั้งเดียวเมื่อเลิกบริษัท หรือเมื่อผู้ออกหุ้นกู้ใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ตั้งแต่เมื่อครบอายุ 5 ปีเป็นต้นไป หรือตามเงื่อนไขที่กำหนดในข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้

มีอัตราดอกเบี้ยช่วง 5 ปีแรกอยู่ที่ 6.10% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ยจะปรับทุก ๆ 5 ปี อ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ณ สิ้นสุดวันทำการของสองวันทำการก่อนวันเริ่มต้นของงวดการปรับดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้อง บวก Initial Credit Spread (ICS) ที่เป็นอัตราคงที่ (ICS = 4.04%) และอัตราดอกเบี้ยส่วนเพิ่ม

ซึ่งจะเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2566 ราคาเสนอขายอยู่ที่หน่วยละ 1,000 บาท ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A” แนวโน้ม “คงที่” และอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่เสนอขายในครั้งนี้อยู่ที่ระดับ “BBB+” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566

มีวัตถุประสงค์เพื่อชำระคืนหนี้จากการไถ่ถอนหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุนสกุลเงินเหรียญสหรัฐอเมริกา ประเภทไม่ด้อยสิทธิและมีประกัน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ อันเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์เดินหน้าสร้างการเติบโตเต็มรูปแบบ (Back to Growth) ในปี 2566

บมจ.บ้านปู (BANPU) ผู้นำด้านพลังงานหลากหลายในระดับนานาชาติ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน (Public Offering) จำนวน 3 รุ่น ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 ที่ระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่”

หุ้นกู้ที่จะเสนอขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไปมีจำนวน 3 รุ่น คือ รุ่นอายุ 5 ปี อัตราผลตอบแทนระหว่าง 3.10-3.30% ส่วนรุ่นอายุ 7 ปี มีอัตราผลตอบแทนระหว่าง 3.60-3.80% และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราผลตอบแทนระหว่าง 3.90-4.10% (อัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะแจ้งอีกครั้ง) คาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 2-3 และ 7 มีนาคม 2566

ด้านบมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด และมีสิทธิเลื่อนชำระดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ของบริษัท ครั้งที่ 1/2566 มีอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้สำหรับปีที่ 1 ถึงปีที่ 5 เท่ากับอัตราคงที่ 5.75-5.95% ต่อปี

ส่วนอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้สำหรับปีที่ 6 ถึงปีที่ 25 จะเท่ากับผลรวมอิงอัตราอ้างอิง Initial Credit Spread และอัตรา 0.25% ต่อปี ขณะที่อัตราดอกเบี้ยปีที่ 26 ถึงปีที่ 50 จะมีอัตราซึ่งเท่ากับผลรวมอิงอัตราอ้างอิง Initial Credit Spread และอัตรา 1.00% ต่อปี

อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้สำหรับปีที่ 51 เป็นต้นไป เท่ากับอัตราซึ่งเท่ากับผลรวมอิงอัตราอ้างอิง Initial Credit Spread และอัตรา 2.00% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยจะปรับตามอัตราอ้างอิงทุก ๆ 5 ปี โดยใช้อัตราอ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุ 5 ปี ชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือน (เว้นแต่มีการเลื่อนชำระดอกเบี้ย)

หุ้นกู้ BGRIM ดังกล่าว มีอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกหุ้นกู้ “A” แนวโน้ม “Stable” อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ “BBB+” แนวโน้ม “Stable” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2566 ซึ่งจะนำเงินไปใช้เป็นเงินลงทุนโครงการ 2,000-4,000 ล้านบาท, ใช้ชำระคืนหนี้ที่ถึงกำหนดชำระจำนวน 1,000-2,000 ล้านบาท และเป็นเงินทุนหมุนเวียน 2,000-3,000 ล้านบาท ภายในปี 2567 เป็นการเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไป คาดเปิดจองซื้อหุ้นกู้วันที่ 28-30 มีนาคม 2566

บจ.ที่ออกเสนอขายหุ้นกู้เหล่านี้ถือเป็นบริษัทระดับแถวหน้าของแต่ละอุตสาหกรรม และมีระดับความน่าเชื่อถือในเกรดที่ดี จึงน่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้

Back to top button