SKY ชัดแล้ว..ทำไมหุ้นวิ่ง.!

น่าแปลก..!! ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว หุ้นบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ก็วิ่งเป็นปอดเหล็กโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย...


น่าแปลก..!! ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว หุ้นบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ก็วิ่งเป็นปอดเหล็กโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย…จะว่านักลงทุนเข้ามาเก็งงบปี 2565 ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะผลงานในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร..? แต่จู่ ๆ หุ้น SKY ก็ใส่เกียร์ม้าซะงั้น..!?

ถ้าดูจากสถิติในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปรับขึ้นไป 10.58% รอบ 1 เดือน ปรับขึ้น 47.44% และรอบ 3 เดือน ราคาปรับขึ้นไปแล้ว 125.49%

ตอนนั้นถูกตั้งคำถามกันเยอะว่า เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นท้องฟ้าตัวนี้..? ก็มีเสียงซุบซิบนินทาว่า เอ๊ะ…หรือจะมีการเพิ่มทุนอ๊ะป่าว..? แต่ผู้บริหารก็ออกมาปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่มี๊ ไม่มี แน่นอน.!!

ส่วนราคาหุ้น SKY ก็ยังไม่หยุดวิ่งนะ…ครั้นจะบอกว่าวิ่งด้วยธีมเปิดบ้านเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวจีน แหม๊…ตอบรับเกินหน้าเกินตาไปหน่อยมั้ย…

สุดท้ายก็ถึงบางอ้อ..!! มีการประกาศเพิ่มทุนนี่เอง โดยมติบอร์ดเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 357.73 ล้านบาท จากเดิม 312.13 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่จำนวน 91.21 ล้านหุ้น แบ่งเป็น 31.21 ล้านหุ้น ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) อัตราส่วน 20 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 13 บาท รวมมูลค่า 403 ล้านบาท

ส่วนอีกก้อนจำนวน 60 ล้านหุ้น จัดสรรแบบเฉพาะเจาะจง หรือ PP ให้กับบุคคล 3 ราย ที่ราคาหุ้นละ 16.80 บาท รวมมูลค่า 1,008 ล้านบาท

เท่ากับว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้ SKY จะได้เงินก้อนโตเข้าบริษัทราว 1,411 ล้านบาท

ที่น่าสนใจ ถ้าดูชื่อชั้นคนที่มาซื้อ PP ครั้งนี้ไม่ธรรมดา มีทั้ง “ปรินทร์ โลจนะโกสินทร์” ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB ได้รับการจัดสรร 35 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 588 ล้านบาท, “เสี่ยสุระ คณิตทวีกุล” ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ได้รับการจัดสรร 20 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 336 ล้านบาท และ “ทนุธรรม เกียรติไพบูลย์” ผู้ถือหุ้นเบอร์สอง บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC และนั่งเป็นกรรมการอิสระ บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR ได้รับการจัดสรร 5 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 84 ล้านบาท

ก็คงได้คำตอบกันแล้วว่า เหตุใด SKY จึงวิ่งเป็นปอดเหล็ก..!!

ขณะที่วัตถุประสงค์การใช้เงินก็ชัดเจน เงินเพิ่มทุนจาก RO จะถูกแบ่งเป็น 2 ก้อน ก้อนแรกราว 100 ล้านบาท ใช้เพื่อค้ำประกันวงเงินสินเชื่อ และอีก 305 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ส่วนเงินเพิ่มทุนจาก PP ก้อนแรกราว 648 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายการลงทุนในอนาคต อีกก้อนราว 360 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต โดยใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนดำเนินโครงการในอนาคตของบริษัทอีกกว่า 10 โครงการที่มีแผนจะเข้าประมูลงานเพิ่มเติม ซึ่งเป็นโครงการด้านการให้บริการทางการบิน ดิจิทัลแพลตฟอร์ม บริการอินเทอร์เน็ต

โครงการที่มีในมืออยู่แล้ว คือ โครงการพัฒนาระบบนิเวศศูนย์ดิจิทัลชุมชนอย่างยั่งยืน กิจกรรมที่ 1 จัดให้มีศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (ศูนย์ดิจิทัลชุมชน) กลุ่มที่ 4 มูลค่ารวม 1,237 ล้านบาท คาดจะใช้เงินลงทุนสำหรับโครงการนี้ 500 ล้านบาท

แต่ถ้าให้เดา อีกกว่า 10 โครงการที่อยู่ในไปป์ไลน์ น่าจะมีงานบริการภาคพื้นที่ SKY หมายมั่นปั้นมือจะส่งหลานนอกไส้ บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA (ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ SAL ซึ่งถือหุ้นใน AOTGA 51%) เข้ายึดงานบริการภาคพื้นสนามบินที่อยู่ภายใต้กำกับ AOT ทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินเชียงใหม่ สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย สนามบินภูเก็ต และสนามบินหาดใหญ่…

แต่เป้าหมายหลักคงอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นแหล่งขุมทรัพย์มหาศาลนั่นแหละ…

ส่วนคนที่มาซื้อหุ้นเพิ่มทุน PP ก็น่าคิดว่าจะมาแค่ประเดี๋ยวประด๋าวหรืออยู่ยาว..? อันนี้ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้

แต่ถ้าดูจากราคาหุ้น SKY เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ก.พ. 2566 ซึ่งวิ่งสวนข่าวการเพิ่มทุน โดยปรับขึ้นไปอีก 5.50% ปิดตลาดที่ 23.00 บาท ดูเหมือนนักลงทุนจะให้ค่าตีราคากับขาใหญ่ 3 คนนี้ไม่น้อยทีเดียว

ระวังจะกลายเป็นคุณหลอกดาว…ไม่รู้ด้วยนะ แล้วอย่ามาร้องแรกแหกกระเชอภายหลังก็แล้วกัน..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button