MINT แปลงวอร์คุ้มค่า.?

ดีเดย์วันนี้ (8 ก.พ.) ถึง 14 ก.พ. 2566 กับการแจ้งความจำนงการแปลงสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิหุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ วอร์แรนต์ MINT–W7, MINT–W8 และ MINT–W9 ซึ่งกำหนดวันแปลงสิทธิในวันที่ 15 ก.พ.นี้

ดังนั้น คนที่มีวอร์แรนต์ 3 รุ่นนี้อยู่ในมือคงมีคำถามตามมาว่า ควรแปลงสิทธิดีมั้ย..? จะคุ้มหรือเปล่า..?

ถ้าให้วิเคราะห์เริ่มที่ MINT–W7 ซึ่งเหลืออีก 172.24 ล้านหน่วย จากจำนวนวอร์แรนต์ทั้งหมด 235.51 ล้านหน่วย (ก่อนหน้านี้มีการแปลงสิทธิไปแล้วบางส่วน) จะหมดอายุวันที่ 31 ก.ค. 2566 อัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้น ราคาใช้สิทธิที่ 21.60 บาท…ถ้าเทียบกับราคาหุ้นแม่ MINT ในกระดาน ซึ่งอยู่ที่ 33.25 บาท สำหรับคนที่ได้วอร์แรนต์มาฟรี อันนี้แปลงยังไงก็คุ้ม…เนื่องจากอัตราใช้สิทธิ 1:1

แต่ถ้าไปดูราคา MINT–W7 ล่าสุดในกระดานอยู่ที่ 11.60 บาท เมื่อบวกกับราคาแปลงสิทธิที่ 21.60 บาท จะมีต้นทุนที่ 33.20 บาท ถ้าแปลงก็คุ้มอยู่นะ..!!

ส่วน MINT–W8 เหลืออีก 153.66 ล้านหน่วย จากจำนวนวอร์แรนต์ทั้งหมด 178.98 ล้านหน่วย จะหมดอายุในวันที่ 5 พ.ค. 2566 อัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้น ราคาใช้สิทธิที่ 28 บาท…ถ้าได้วอร์แรนต์มาฟรี แปลงที่ราคาไหนก็คุ้มเหมือนกัน…

ขณะที่ราคา MINT–W8 ล่าสุดในกระดานอยู่ที่ 5.15 บาท เมื่อบวกกับราคาแปลงสิทธิที่ 28 บาท จะมีต้นทุนที่ 33.15 บาท ถ้าแปลงก็คุ้มอยู่หนา…

อ้อ…ที่แปลงแล้วไม่น่าจะคุ้ม เห็นจะเป็น MINT–W9 ซึ่งเหลืออีกราว 158.19 ล้านหน่วย จากจำนวนวอร์แรนต์ทั้งหมด 162.21 ล้านหน่วย จะหมดอายุในวันที่ 15 ก.พ. 2567 อัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้น ราคาใช้สิทธิที่ 31 บาท…เนื่องจากราคา MINT–W9 ล่าสุดในกระดานอยู่ที่ 3.88 บาท เมื่อบวกกับราคาแปลงสิทธิที่ 31 บาท จะมีต้นทุนที่ 34.88 บาท ไปซื้อหุ้นแม่ในกระดานดีกว่ามั้ย..?

บนสมมติฐาน ถ้ามีคนใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ MINT–W7 กันเต็มจำนวน จะได้เงินราว 5,087.16 ล้านบาท และใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ MINT–W8 เต็มจำนวน จะได้เงินราว 5,011.69 ล้านบาท รวมสองก้อนนี้ MINT จะได้เงินเข้ากระเป๋าราว 10,000 ล้านบาท ซึ่งกำลังนี้ดเงินเพื่อไปขยายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รองรับการกลับมาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก…

ขณะที่ถ้ามอง MINT ระยะกลาง-ยาว น่าจะเติบโตก้าวกระโดด หลังจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมีการเปิดบ้านเปิดเมือง สะท้อนได้จากงบ 9 เดือนแรกปี 2565 ที่พลิกมามีกำไรสุทธิ 2,375 ล้านบาท และมีรายได้รวม 88,174 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ขาดทุน 13,166 ล้านบาท และมีรายได้รวม 76,211 ล้านบาท

สอดคล้องกับสถาบันนักวิเคราะห์ที่ส่วนใหญ่มีมุมมองเชิงบวกต่อ MINT โดยมองว่าช่วง 1-2 ปีนี้ จะโตแรงแซงทางโค้ง จากรายได้ของธุรกิจโรงแรมในยุโรปที่ยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เลยเป็นที่มาของการอัพเป้าหมายกำไรปี 2566-2567 ขึ้นอีก เฉลี่ยอยู่ที่ 5.9 พันล้านบาท และ 8.3 พันล้านบาท ตามลำดับ พร้อมอัพเป้าหมายราคาใหม่ โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 38.76 บาท จากราคาต่ำสุด 34.18 บาท และราคาสูงสุด 44.00 บาท

ทว่าเห็นราคาหุ้น MINT ทรง ๆ ทรุด ๆ แบบนี้ ชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิ จะมีคนมาใช้สิทธิมากน้อยแค่ไหน..?

เอ๊ะ…หรือช่วงนี้จะได้เห็นปรากฏการณ์ดันราคาแม่…เพื่อจูงใจให้มาแปลงลูกหรือเปล่าน้อ..!?

…อิ อิ อิ…