SUPER กำไรไฟหรี่.!?

SUPER ของ “เฮียจอมทรัพย์ โลจายะ” ถือเป็นหุ้นโรงไฟฟ้าประทาน เพราะมีครบทั้งสายลมและแสงแดด และน่าจะเป็นหุ้นที่มีพอร์ตพลังงานทางเลือกมากที่สุด


บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ของ “เฮียจอมทรัพย์ โลจายะ” ถือเป็นหุ้นโรงไฟฟ้าประทาน เพราะมีครบทั้งสายลมและแสงแดด และน่าจะเป็นหุ้นที่มีพอร์ตพลังงานทางเลือกมากที่สุด (ล่ะมั้ง) ทำให้ถูกคาดหวังว่ากำไรต้องดีแหง ๆ เพราะเป็น Recurring Income โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ COD ไปแล้ว กำไรน่าจะมีเสถียรภาพ…

แต่ถ้าย้อนไปดูกำไรของ SUPER ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่มีเสถียรภาพเอาซะเลย บางปีกำไรโตดีดี๊ ถัดมาอีกปีกำไรวูบซะงั้น ไม่ต่างจากรถไฟเหาะตีลังกา..!!

ขณะที่งบปี 2565 เป็นอีกปีที่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน เพราะกำไรสุทธิลดลงฮวบฮาบเหลือแค่ 665 ล้านบาท ลดลง 72.37% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 2,407 ล้านบาท

จะว่าไปรายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้นนะ อยู่ที่ 9,361 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.74% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 8,530 ล้านบาท

ส่วนมูลเหตุที่ฉุดให้กำไรลดลงนั้น เกิดจาก 3-4 ปัจจัยด้วยกัน อันดับแรก ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนทั้งในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินเวียดนามดอง อันเนื่องมาจากการเข้าไปลงทุนที่ประเทศเวียดนามและการกู้ยืมเงินในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 546 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 930 ล้านบาท

ขณะที่ต้นทุนทางการเงินก็ยังคงตามหลอกหลอน SUPER ไม่รู้จบ…ซึ่งในปี 2565 มีต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 2,784 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 776 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 38.69%

ที่จริงเมื่อหลายปีก่อน SUPER มีการขายโรงไฟฟ้าเข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี (Super Energy Power plant Infrastructure Fund) หรือ SUPEREIF เพื่อนำเงินไปเคลียร์หนี้สินบางส่วนแล้วนะ แต่ก็ยังไม่หมดสักที แถมยังต้องก่อหนี้เพิ่มอย่างต่อเนื่องเพื่อลงทุนโครงการใหม่ ๆ ทำให้ SUPER เป็นหุ้นที่แบกหนี้สินไว้เยอะ

โดย ณ สิ้นปี 2565 มีหนี้สินรวมอยู่ที่ 62,351 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,255 ล้านบาท หรือ 5.51% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีหนี้สินรวม 59,096 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 2.90 เท่า

แหม๊…เห็น D/E แล้ว น่าเป็นห่วงจริง ๆ…

ส่วนอีกสาเหตุเกิดจากในปี 2565 ไม่มีการบุ๊กรายการพิเศษเหมือนเมื่อปี 2564 ที่มีรายการพิเศษได้รับเงินชดเชยความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมจากโครงการโรงไฟฟ้าของบริษัท เอส ทู พี อีเนอร์จี จำกัด (S2P) ที่จังหวัดสระแก้ว จำนวน 303.80 ล้านบาท ส่งผลให้ปี 2565 บริษัทมีรายได้อื่นอยู่ที่ 99 ล้านบาท ลดลง 78.23%

มิหนำซ้ำยังต้องรับรู้ผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของตราสารอนุพันธ์สัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย 13.26 ล้านบาท อีกด้วย

เป็นที่มาที่ทำให้กำไรของ SUPER ทรุดลงจนน่าใจหาย..!!

และเป็นเหตุให้ราคาหุ้น SUPER ไม่เต็มบาทอ๊ะป่าว..? เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปแตะบาทปุ๊บ ก็จะถูกถล่มขายปั๊บเช่นกัน…

ด้วยสภาพของ SUPER จึงไม่ต่างจากไฟฟ้าที่ริบหรี่เลยนะเนี่ย..!!

ก็คาดหวังว่าจะเป็นไฟเต็มดวงได้สักที..? เอาใจช่วยนะคะ “เฮียจอมทรัพย์”

…อิ อิ อิ…

Back to top button