JR เข้าสู่โหมดโตรอบใหม่

แม้ผลการดำเนินในงวดปี 65 ของ JR จะดร็อปลงไปเนื่องจากรายได้จากการขายและบริการลดลง แต่จุดเด่นของ JR เป็นบริษัทที่มีงานใหม่เข้ามาต่อเนื่อง


คุณค่าบริษัท

แม้ผลการดำเนินในงวดปี 2565 ของบริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง และติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร และจำหน่ายอุปกรณ์ รวมถึงบริการบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ ดร็อปลงไป โดยมีกำไรสุทธิ 149.46 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 217.04 ล้านบาท

สาเหตุมาจากรายได้จากการขายและบริการลดลง เหลือแค่ 1,885.74 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้จากการขายและบริการ 2,174.07 ล้านบาท อันเนื่องมาจากหลายโครงการถูกเลื่อนการส่งมอบออกไป

แต่จุดเด่นของ JR เป็นบริษัทที่มีงานใหม่เข้ามาต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาคว้างานใหม่ได้แล้ว 3 งาน ได้แก่ 1.โครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน โครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงแยกลำสาลี-ถนนเทพารักษ์ กับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่าโครงการ 3,087.94 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 1,260 วัน

2.โครงการซื้อระบบอุปกรณ์หม้อแปลง สำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้า กับบริษัท พลังงานมหานคร จำกัด มูลค่าโครงการ 85.20 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 90 วัน และ 3.โครงการซื้อศูนย์ควบคุมเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบสื่อสาร กับการไฟฟ้านครหลวง มูลค่าโครงการ 51.19 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 150 วัน

ส่งผลให้ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท อยู่ที่ 10,472 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2569 ผลักดันผลการดำเนินงานสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/2566 จะรับรู้รายได้จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูบางส่วน ขณะที่ไตรมาส 2/2566 จะรับรู้รายได้จากโครงการสายสีเหลือง, โครงการสายสีชมพู, งานบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะ, งานหินกองโรงไฟฟ้าที่ราชบุรี และงานหมอชิตคอมเพล็กซ์ ส่วนในไตรมาส 3/2566 รับรู้รายได้จากโครงการสายสีเหลือง และโครงการสายสีชมพูเฟสใหม่ เป็นต้น

สำหรับปี 2566 JR มีแผนจะประมูลงานใหม่เพิ่มประมาณ 1,900 ล้านบาท โดยงานที่คาดว่าจะชนะประมูล ได้แก่ 1.ธุรกิจรับเหมาวางระบบจำนวน 1,880 ล้านบาท แบ่งเป็น งานระบบไฟฟ้าจำนวน 830 ล้านบาท, งานระบบไฟฟ้าจำนวน 700 ล้านบาท และระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศจำนวน 350 ล้านบาท 2.ธุรกิจให้บริการซ่อมบำรุงรักษา 26.8 ล้านบาท เป็นต้น

ทำให้บริษัทมั่นใจว่า ปีนี้จะเติบโตก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโตไว้ที่ 15-20% เมื่อเทียบกับปีก่อน

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น JR ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 33.05 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 19.09 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาดหลายเท่า สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 2.96 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.58 เท่า

Back to top button