BCPG หุ้นอนาคตยาวไกล

ถึงแม้ว่าผลประการไตรมาสแรกของปีจะถดถอยลงมากคิดเป็นราคาหุ้นละกว่า 0.30 บาท แต่นักวิเคราะห์ทุกสำนักยังมองว่าเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว


ถึงแม้ว่าผลประการไตรมาสแรกของปีจะถดถอยลงมากคิดเป็นราคาหุ้นละกว่า 0.30 บาท แต่นักวิเคราะห์ทุกสำนักยังมองว่าเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว เพราะว่ากระแสสูงของการลดค่า แอดเดอร์ ของพลังงานทางเลือกเป็นเรื่องปกติที่ต้องเกิดขึ้น และ คาดเดาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่การลงทุนใหม่ ๆ ตลอดเวลาในต่างประเทศยังทำให้โอกาสทำกำไรของบริษัทสูงขึ้นในอนาคต

อัตราทำกำไรสุทธิที่ระดับ 40% ของรายได้ก็ยังทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อีกเพราะยังมีกำไรสะสมระดับเกือบ 7.0 พันล้านบาท ทำให้โอกาสเพิ่มทุนที่จะลด ความสามารถทำกำไรลงอย่างมีนัยสำคัญไม่เกิดขึ้นอีก ในระยะข้างหน้า

ที่สำคัญหากดีลบริษัทอย่าง BCP ที่จะเข้าซื้อกิจการโรงกลั่น น้ำมันของเอสโซ่ประสบความสำเร็จงดงามจะส่งผลบวกตามทฤษฎี “ห่าน บิน” ให้กับทางอ้อมอีกด้วย

BCPG กำไร Q1/66 หดหลังหยุดขายไฟฟ้าในลาว-ไร้กำไรพิเศษจึงเป็นรายงานที่ต้องอ่านด้วยความเข้าใจถึงธรรมชาติของธุรกิจที่ BCPG มุ่งไปทำลงทุน อย่างถ่องแท้จะเห็นถึงรูปสุวรรณแต่ชั้นใน “ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น”

ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในไตรมาส 1/66 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/65 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,057 ล้านบาท ลดลง 16.5% มีกำไรสุทธิ 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.90% ปัจจัยหลักจากกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยน และการรับรู้การกลับรายการขาดทุน จากการด้อยค่าของสินทรัพย์จำนวน 267 ล้านบาท จากโครงการชิบะ 2 ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากปีที่แล้วมีการประเมินว่าโครงการมีความเสี่ยงที่จะได้รับใบอนุญาตในการก่อสร้างไม่ทันตามกำหนด  แต่ในขณะนี้ โครงการดังกล่าวสามารถเริ่มการก่อสร้างและคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ตามแผน

ขณะที่มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่ 160 ล้านบาท ลดลง 57.3% ปัจจัยจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป. ลาวลดลง จากการหยุดผลิตไฟฟ้าเพื่อเตรียมขายไฟฟ้าไปยังการไฟฟ้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Vietnam Electricity-EVN)

ผลจากการรับรู้ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย โรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทย และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศฟิลิปปินส์และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา ช่วยบรรเทาผลกระทบจากการหยุดขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ใน สปป. ลาว บางส่วน

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/66 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมลดลง 8.7% กำไรสุทธิลดลง 62.5% และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติลดลง 69.1% เนื่องจากปีที่แล้วมีผลกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ประกอบกับในไตรมาสนี้มีการหยุดขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว เพื่อเชื่อมการขายไฟฟ้าไปยังเวียดนาม ซึ่งสายส่ง และอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ติดตั้งเสร็จเรียบร้อย พร้อมจ่ายไฟฟ้าข้ามพรมแดนจาก สปป.ลาวไปยังเวียดนามได้ทันทีที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเวียดนาม

ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา (CCGT) ซึ่ง BCPG ได้เข้าไปลงทุนตั้งแต่ต้นปี 66 เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรในเดือน มีนาคมที่ผ่านมาเป็นจำนวน 36 ล้านบาท และไตรมาส 2/66 จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาส ขณะที่โครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในไต้หวัน มีความคืบหน้าไปด้วยดี คาดว่าจะได้รับการยืนยันการเชื่อมต่อสายส่งเพื่อขายไฟฟ้าสำหรับโครงการกำลังการผลิต 58 เมกะวัตต์ในเดือนนี้ และเริ่มการก่อสร้างโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง

เพียงเท่านี้ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่าหุ้น BCPG ซ่อนอะไรที่ดีเอาไว้ ราคาหุ้นที่ลงมาใต้ 10.00 บาท ถึงได้ประคองตัวไว้ได้เหนียวแน่น

Back to top button