10 หุ้นปันผล (กลางปี) สูง

เหมือนว่า “หุ้นปันผล” กำลังกลับมาถูกโฟกัสจากนักลงทุนมากขึ้น ยิ่งช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวน เข้าแล้วโดน ขาดทุนทุกวัน


เหมือนว่า “หุ้นปันผล” กำลังกลับมาถูกโฟกัสจากนักลงทุนมากขึ้น

ยิ่งช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวน เข้าแล้วโดน ขาดทุนทุกวัน

ทำให้นักลงทุนต่างปรับพอร์ต ลดวงเงินลงทุนลง พร้อมกับควานหาหุ้นที่มีพื้นฐานแกร่งจริง ๆ และราคาลงมาลึก และรวมถึงหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง

หรือยิ่งมีการจ่ายปันผลช่วงกลางปีด้วย จะได้รับความสนใจมากขึ้น

ล่าสุดหลักทรัพย์บัวหลวง ได้แนะนำหุ้นที่จ่ายเงินปันผลกลางปี

และอัตราผลตอบแทน หรือ Dividend yield น่าสนใจ

ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนในช่วงที่ภาพตลาดหุ้นยังมีความไม่แน่นอนจากการเมืองในประเทศ

ประกอบกับภาพผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ทั้งไทยและสหรัฐอเมริกา (US) ใกล้จะผ่านจุดพีก

และมีแนวโน้มชะลอตัวลงในครึ่งหลังของปี ทำให้ Dividend yield gap มีแนวโน้มกว้างขึ้น หุ้นปันผลน่าสนใจมากขึ้น

ส่วนหุ้นที่คัดเลือกมา จะมีพื้นฐานดี 

เริ่มจากกลุ่มที่คาดจ่ายปันผลระหว่างกาลให้ดิวิเดนด์ยีลด์สูง ได้แก่ ICT อสังหาฯ พลังงาน โรงไฟฟ้า และกลุ่มธนาคาร

โดยมีการเลือกหุ้นปันผลสูงและพื้นฐานดี 10 บริษัท แบ่งได้ 4 กลุ่มใหญ่

1.กลุ่มอสังหาฯ แนะนำ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI คาดดิวิเดนด์ยีลด์ 5.2%

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI คาดดิวิเดนด์ยีลด์ 2.7%

บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH คาดดิวิเดนด์ยีลด์ 2.7%

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC คาดดิวิเดนด์ยีลด์ 2.2%

2.กลุ่มพลังงาน แนะนำ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP คาดดิวิเดนด์ยีลด์ 2.9%

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT คาดดิวิเดนด์ยีลด์ 2.8%

บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP คาดดิวิเดนด์ยีลด์ 2.8%

3.กลุ่มธนาคาร แนะนำ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP คาดดิวิเดนด์ยีลด์ 2.9%

และ 4.กลุ่มสื่อสารแนะนำ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH คาดดิวิเดนด์ยีลด์ 2%

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC คาดดิวิเดนด์ยีลด์ 2%

สำหรับตลาดหุ้นไทยวานนี้ บวก 1.34 จุด ปิด 1,536.64 จุด

ส่วนมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นมามากกว่า 51,751 ล้านบาท อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ มูลค่าการซื้อขายจะเฉลี่ยต่อวัน อยู่ประมาณ 3.5–4.5 หมื่นล้านบาท

ส่วนดัชนียังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ

วานนี้อยู่ในแดนบวก และลบสลับกันไปตลอดทั้งวัน ตามทิศทางความเคลื่อนไหวการเมือง

แต่ที่เริ่มน่าสนใจคือ นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยมาแล้ว 4 วันติดต่อกัน หรือเกือบ 5 พันล้านบาท

เช่นเดียวกับนักลงทุนสถาบันที่ในรอบ 30 วัน (ทำการ) ซื้อสุทธิ (ประมาณ) 1.2 หมื่นล้านบาท 

ปัจจัยที่ต้องจับตา คงอยู่ที่การชุมนุมว่าจะมีความรุนแรงตามมากหรือไม่

โดยเฉพาะหากเกิดการล้ม MOU

แล้วมีการเปลี่ยนขั้วการจัดตั้งรัฐบาล

Back to top button