MINT-W9 มันนี่เกม.! ที่พร้อมกิน ‘คนโลภ’

ความคาดหวังของนักลงทุนรายย่อยที่ส่วนใหญ่มักจะชอบเข้าไปเก็งกำไรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะแปลงเป็นหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) โดยที่จะดูเพียงแค่ วอลุ่มเทรด และเปอร์เซ็นต์การบวกที่หวือหวา จนทำให้เกิดความโลภ โดยที่ไม่ดูเงื่อนไขด้านอื่น ๆ ประกอบ

ยิ่งหากวอร์แรนต์ ตัวนั้น ออกมาจากบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ พื้นฐานดี หรือติดอยู่ใน SET50 ก็ยิ่งทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้นไปอีก

ในโลกของวอร์แรนต์ ไม่ว่าจะออกจากบริษัทใด ๆ ก็ตาม ต่อให้เป็นบริษัทที่ดีที่สุดในตลาดหุ้นไทยก็ตาม  ก็สามารถทำให้นักลงทุนรายย่อย ที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องกฎระเบียบหรือเงื่อนไขการดำรงอยู่ อย่างละเอียด ต้องเสียหาย และขาดทุนได้อย่างมหาศาล ไม่แพ้หุ้นปั่น หรือ หุ้นมีปัญหาเลยก็ว่าได้

เหตุที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ ก็จะขอยกตัวอย่าง ของ MINT-W9 ที่จะครบกำหนดอายุ การเทรดวันสุดท้าย 22 มกราคม 2567 และจะหยุดซื้อขายตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม เป็นต้นไปตลอดกาล

เนื่องจาก จะต้องปิดสมุดทะเบียนเพื่อพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.-15 ก.พ. 67 

โดยตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.-14 ก.พ. 67 (เฉพาะวันทำการ) สามารถแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ เป็นหุ้นสามัญได้ พร้อมชำระเงินค่าแปลงสิทธิ

โดยสัดส่วน 1 วอร์แรนต์ ต่อ 1 หุ้นสามัญ มีราคาใช้สิทธิ์ 31 บาทต่อหุ้น

หากดูจากชื่อชั้นของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ถือเป็นบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจด้านโรงแรม และร้านอาหาร ที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ มากพอสมควร โดยมีพื้นฐานของการเติบโตด้านรายได้และกำไร อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

หากมาเทียบดูกับเงื่อนไขและข้อจำกัดของ MINT-W9 ที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ บวกกับราคาแปลงสิทธิ ที่สูงกว่าราคาแม่ (MINT) ในกระดาน ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ไม่คุ้มค่าต่อการแปลงสิทธิ ขึ้นแบบมหาศาล หากราคาหุ้น MINT ไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือ 31 บาทได้ภายในก่อนหยุดเทรด (22 ม.ค.) และก่อนวันสุดท้ายของการแปลงสิทธิเป็นหุ้นสามัญ (14 ก.พ.)

เงื่อนไขสำคัญที่น่ากังวลของ MINT-W9

1)ระยะเวลาของการครบกำหนดอายุ (22 ม.ค.) เหลือเพียงแค่ 9 วันทำการ หากราคาหุ้น MINT ไม่สามารถยืนเหนือ 31 บาท ได้ ต่อให้ราคา MINT-W9 อยู่ที่เท่าไหร่ ก็คือ “แพง“ หรือ “ไม่คุ้มที่จะแปลงสิทธิ”..

2)ราคาหุ้น MINT ต้องยืนเหนือ 31 บาท ก่อนวันที่ 14 ก.พ. 67 เพื่อที่จะได้จูงใจให้นักลงทุนที่ถือ MINT-W9  มาใช้สิทธิในการแปลงเป็นหุ้นสามัญ เพื่อบริษัทจะได้มีเงินสดเข้าไปหมุนเวียนเพิ่ม

สรุปประเด็นหลัก คือ ทั้งก่อนวันที่ 23 ม.ค.หรือก่อน 14 ก.พ. 67 หากราคาหุ้น MINT ไม่สามารถยืนเหนือ 31 บาท นักลงทุนที่ถือ MINT-W9 จะกลายเป็นศูนย์ไปในทันที เนื่องจากจะไม่มีใครแปลงสิทธิ ซึ่งจะส่งผลทำให้ ไม่มีเงินสดเข้าบริษัท

ในสถานการณ์ตอนนี้ที่ MINT-W9 ยังมีวอลุ่มการซื้อขายอยู่ระดับเฉลี่ยวันละ 10-20 ล้านหน่วยต่อวันนั้น น่าจะเป็นการวัดใจ หรือคาดเดากันว่าจะมีการลากหุ้น MINT เพื่อให้คนถือ MINT-W9 มาแปลงสิทธิ!!? โดยอาศัยชื่อชั้นที่ดีของ MINT มาเป็นตัวล่อ..

แต่มันจะง่ายดายแบบนั้นจริง ๆ หรือ..!?

ที่ผ่านมา “วอร์แรนต์ใกล้หมดอายุ” มักถูกดึงมาใช้เล่นเรื่องของ  Money Game อยู่บ่อย ๆ 

โดยรอบนี้ MINT-W9 ถูกทยอยสะสมจาก “มือที่มองไม่เห็น” มาตั้งแต่วันที่ 26-28 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา แม้จำนวนวอร์แรนต์ที่ออกมาทั้งหมดจะมีเพียงแค่ 157 ล้านหน่วยเท่านั้น แต่การหมุนรอบมีสูงกว่า ในช่วง 3 วันดังกล่าวถือว่าไม่ธรรมดา

โดยราคา MINT-W9 จากราคาปิดวันที่ 25 ธ.ค. 66 อยู่ที่ 0.16 บาท จากนั้นใช้เวลาอีก 3 วันทำการ ดันราคาให้พุ่งขึ้นไปสูงสุดที่ 0.81 บาท (28 ธ.ค. 66) หรือคิดเป็นการปรับตัวขึ้น 406%

เพียงแค่ 3 วันทำการ ราคาพุ่งขึ้น 406% ถือว่ารุนแรง และเกินพอดีเมื่อเทียบกับ MINT

หลังปีใหม่ (2567) ราคา MINT-W9 ก็ปรับตัวลดลงเรื่อย ๆ จนล่าสุด ลงมาปิดที่ 0.21 บาท (8 ม.ค.) และวันถัดมา (9 ม.ค.) ก็ดันราคาขึ้นไปบวกสูงสุดระหว่างวันที่ 0.49 บาท เพิ่มขึ้น 133 % และทุบลงมาปิดที่ 0.25 บาท

อย่างไรก็ตาม การเข้ามาเก็งกำไร MINT-W9 เพราะมีการทำให้เชื่อว่าจะมีการลากราคาหุ้น MINT ขึ้นมาเพื่อจูงใจ แต่กลายเป็นว่า วันนี้ราคาหุ้น MINT ยังอยู่ต่ำกว่า 29 บาท ยังห่างจากราคาต้นทุนแปลงสิทธิถึง 2 บาท ซึ่งในความเป็นจริง ราคา MINT ต้องอยู่มากว่า 31 บาท เพื่อจูงใจให้คนมาแปลงสิทธิ

ในความเป็นจริง ถ้าต้องการถือหุ้นพื้นฐานที่ดีอย่าง MINT ก็ไม่ควรไปเสี่ยง กับ MINT-W9

การลงทุนหุ้น MINT โดยตรงจะเป็นการดีกว่าที่จะไปลงทุนใน MINT-W9 ที่ตอนนี้กลายเป็น วอร์แรนต์ที่มีความเสี่ยงเงื่อนไขของอายุ และเรื่อง Money Game ที่มีโอกาสจะกลายเป็นศูนย์ แบบไร้ค่า หากที่สุดแล้วราคา MINT ไม่สามารถยืนเหนือ 31 บาทได้ตามระยะเวลาวันสุดท้ายในการแปลงเป็นหุ้นสามัญ