คุณูปการ statement ตลาดหลักทรัพย์

การประกาศที่จะขยายผล ในการนำตัวกลุ่มผู้กระทำผิดในคดีหุ้น MORE เพิ่มเติมของ ก.ล.ต. กับทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายหลังได้พบผู้กระทำผิดเพิ่มเติม


การประกาศที่จะขยายผล ในการนำตัวกลุ่มผู้กระทำผิดในคดีหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE เพิ่มเติมของสำนักงานก.ล.ต.กับทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายหลังได้พบผู้กระทำผิดเพิ่มเติม ล่าสุดนั้น ทำให้นึกย้อนกลับไปช่วงก่อนหน้านี้ไม่ถึง 1 เดือนเต็ม

ทางผู้บริหาร MORE ได้มีการแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ว่าจะทำการเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) และออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (MORE-W3) ให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อ และได้รับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว

โดยยอดเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนดังกล่าว จำนวน 1,076 ล้านบาท แต่จำนวนหุ้นเพิ่มทุน กลับมากกว่าเดิมสูงถึง 4 เท่าตัว และมีจำนวนหุ้นเพิ่มทุนที่สูงถึง 21,530.24 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.05 บาท นั้น

ก่อนหน้านี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ออกมาทำหน้าที่ที่ดีในการกึ่งเบรก การเพิ่มทุนที่มีการไดลูท แบบมหาศาล โดยสั่งให้ MORE จัดทำรายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เกี่ยวกับการเพิ่มทุนครั้งนี้ 

โดยตลท.เน้นย้ำให้ MORE ต้องส่งรายงานของการประเมินจาก IFA ไปให้ผู้ถือหุ้นเดิม แบบมีระยะเวลาที่ห่างมากพอ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นเดิมได้ศึกษารายละเอียด จากวันที่กำหนดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติเรื่องนี้

นอกจากนี้ ตลท.ยังกำหนดให้ IFA ที่ MORE ใช้ประเมิน ให้มีความครอบคลุมที่สำคัญ ดังนี้ 

1) ความเหมาะสมของราคา เงื่อนไขการขายหุ้น

2) ความสมเหตุสมผล และประโยชน์ในการขายหุ้นเพิ่ม (RO) รวมถึง แผนการใช้เงินที่ชัดเจน เมื่อเทียบกับผลกระทบที่จะเกิดกับผู้ถือหุ้น

3) คำแนะนำของ IFA ต่อผู้ถือหุ้นว่า ควรลงมติเห็นชอบ หรือไม่ในการเพิ่มทุนครั้งนี้

ตัวอย่าง 3 ข้อที่ทางตลท.ต้องการให้  MORE อธิบายผ่านความเห็นของ IFA ก่อนที่จะมีการเพิ่มทุนในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญแบบนี้

การออกจดหมายกึ่งเบรกก่อนเพิ่มทุน ช่วงนั้นวันที่ 16 มกราคม 2567 ดูเหมือนไม่มีอะไรสำคัญมากนัก เป็นการทำหน้าที่ปกติของตลท. ที่เป็นหน่วยงานที่เป็นฝั่งโปรโมต และจะต้องควบคุมบริษัทจดทะเบียนให้รายงานข้อมูลต่อนักลงทุนแบบไม่ขาดตกบกพร่อง หรือข้อสงสัยที่มีผลต่อราคาหุ้น หรือพื้นฐานของบริษัท

แต่พอข่าวของ สำนักงานก.ล.ต.กับบก.ปอศ. ที่จะขยายผลฯ ออกมา ทำให้การบังคับให้ MORE ต้องจ้าง IFA (คนกลาง) มาประเมินผลได้ผลเสียที่จะตกกับผู้ถือหุ้น กลายเป็นจดหมายที่มีคุณประโยชน์ขึ้นมาอย่างมหาศาล 

กล่าวคือ หากเคสนี้ยังปล่อยให้ MORE เพิ่มทุนสำเร็จ โดยไม่มี IFA มาประเมิน ก่อนที่จะมีการขยายผลหาผู้กระทำผิดเพิ่มจากก.ล.ต.-บก.ปอศ. คงไม่มีใครสามารถประเมินได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป !? 

เราไม่ได้บอกว่า การเพิ่มทุนไม่ดี แต่สถานการณ์ของ MORE ในตอนนี้ กลายเป็น “พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก” การได้รับข้อมูลแบบครบถ้วนถือเป็นสิ่งสำคัญของการลงทุน

การเข้าแทรกระหว่างทางของเคส MORE  ถือเป็น “สิ่งที่มีคุณูปการต่อผู้ถือหุ้นและนักลงทุน อย่างมหาศาล” ที่ได้ประโยชน์ที่สุดคือ ผู้ถือหุ้นเดิม MORE จะได้ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนอนุมัติการเพิ่มทุน

รองลงมา คือ นักลงทุนในตลาดหุ้น จะได้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ไว้ใช้เป็น Case Study เพื่อใช้ในการศึกษาหุ้นตัวอื่น ๆ ต่อไป 

นอกจากนี้ยังไม่นับจดหมาย หรือ statement อื่น ๆ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีออกมาสอบถามบริษัทจดทะเบียนอยู่เรื่อย ๆ มีทั้งให้ ชี้แจงเรื่อง การเพิ่มทุน, งบการเงิน , การซื้อขายหุ้น ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์และราคาหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ, ชี้แจงข้อมูลการประกอบธุรกิจของบริษัท บริษัทร่วมและบริษัทย่อยที่มีอยู่, ชี้แจงกรณีการซื้อขายหุ้น Big Lot ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่เป็นประโยชน์ ที่นักลงทุนควรอ่านและศึกษาให้รู้ความ แม้เราจะไม่ได้ลงทุนอยู่ในหุ้นตัวนั้นก็ตามที

Back to top button