ROCTEC มันนี่เกมคาสิโน.!?

หากเอ่ยชื่อบริษัท ร็อคเทค โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ ROCTEC เชื่อว่านักลงทุนหลายคนอาจไม่รู้จัก บ้างหลงคิดไปว่าเป็นหุ้นน้องใหม่ป๊ะเนี่ย..? แต่ถ้าบอกว่าหุ้นตัวนี้เป็นร่างใหม่ของบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ในกลุ่มบีทีเอสน่าจะร้องอ๋อกันทันที..!! โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ยังติดหุ้นอยู่ราว 13,839 ราย..!?

แต่น่าแปลก ROCTEC จากหุ้นที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง ดูได้จากวอลุ่มเทรดในแต่ละวันที่บางเฉียบ เฉลี่ยไม่ถึงสิบล้านบาทเสียด้วยซ้ำ จู่ ๆ ช่วงก่อนสงกรานต์ราคาหุ้นพุ่งพรวดไปกว่า 7% หน้าตาเฉย แถมวอลุ่มเทรดก็หนาแน่นผิดหูผิดตาปาไปกว่า 48.89 ล้านบาท

ทั้ง ๆ ที่ปัจจัยพื้นฐานดี ๆ ยังไม่มีให้เห็น…จึงไม่แคล้วถูกตั้งคำถามว่าเกิดอิหยังกับหุ้นตัวนี้..??

ที่แท้เกิดเสียงลือเสียงเล่าอ้างในห้องค้าว่า กลุ่มบีทีเอสจะใช้ ROCTEC เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันในการลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์…

หลังเห็นสัญญาณบวกจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2567 มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ศึกษาความเป็นไปได้ในการศึกษาถึงรายละเอียดผลการพิจารณาการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ให้นำกลับมาเสนอต่อครม.ภายใน 30 วัน

เลยทำให้นักลงทุนเฮโลเข้ามาเก็งกำไรในหุ้น ROCTEC ส่งผลให้ช่วงก่อนสงกรานต์ราคาพุ่งแรงอย่างที่เห็น…

จะจริงเท็จประการใด…มิอาจทราบได้

แต่ถ้ามาดูโครงสร้างผู้ถือหุ้น 5 อันดับแรก แน่นอนว่ากลุ่มบีทีเอสถือหุ้นใหญ่รวมกัน 54.30% ซึ่งถือทั้งในนามบริษัท วี จี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI สัดส่วน 27.06%, บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS สัดส่วน 17.26% และ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB สัดส่วน 9.98%

ขณะที่ปรากฏชื่อ “นเรศ งามอภิชน” นักลงทุนรายใหญ่ ถือหุ้นอันดับ 3 สัดส่วน 10.51% ส่วนอันดับ 5 เป็นบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือสัดส่วน 7.83%

ถ้าดูชื่อชั้น “นเรศ” ไม่ธรรมดา ชื่อเสียงกระฉ่อน อุ๊ย…คุ้นหน้าคุ้นตาและรู้จักกันดีในแวดวงตลาดหุ้นอะนะ…

ก็ไม่รู้ว่า ปรากฏการณ์หุ้น ROCTEC ที่หวือหวาผิดวิสัยช่วงนี้จะไปเกี่ยวข้องกับใครหรือเปล่า..??

ที่สำคัญ ถ้าจะใช้ ROCTEC เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันจริง ก็น่าตั้งข้อสังเกตว่า ROCTEC เล็กไปหรือเปล่าที่จะทำงานใหญ่ขนาดนั้น..?? เนื่องจากมีทุนจดทะเบียนแค่ 8,117 ล้านบาทเท่านั้น

ถ้าจะทำอย่างนั้น ก็ต้องเพิ่มทุนมหาศาล เพื่อขยายฐานทุนให้ใหญ่ขึ้น เรียกว่าต้องอัพเกรดตัวเองเสียก่อน…ซึ่งถ้าดูจากไซซิ่งตอนนี้โอกาสมีน้อยนะ

แต่ถามว่าจำเป็นมั้ยที่จะต้องเพิ่มทุนขนาดนั้น..?? อันนี้ก็น่าคิด

งานนี้คงต้องไปตามผู้ถือหุ้นใหญ่แล้วล่ะว่าจะเอายังไง..??

ส่วนที่เห็นหลังสงกรานต์ (17 เม.ย.) เปิดตลาดมาแล้วหุ้น ROCTEC ราคาทรุดไป 3.95% แต่วอลุ่มยังหนาแน่นอยู่ที่ 26.36 ล้านบาท

ขณะที่วานนี้ (18 เม.ย.) ปิดตลาดที่ 0.71 บาท ปรับลดลง 2.74% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 26.29 ล้านบาท

น่าจะเป็นการขายทำกำไร หรือลากขึ้นไปเชือดนั่นแหละ…

บอกแล้วว่า อย่าไว้ใจทาง…อย่าวางใจตลาดหุ้น

…อิ อิ อิ…