TRR พลังใหม่ในสังคมไทย

จากข้อคิดของนักประวัติศาสตร์ที่นำเสนอเรื่อง TUR ผู้เขียนขอต่อยอดไปถึงพลังของคนรุ่นใหม่ในสังคมไทยที่กำลังถือกำเนิดขึ้นมา


จากข้อคิดของนักประวัติศาสตร์ที่นำเสนอเรื่อง TUR (Thai Ultra Royalists) ผู้เขียนขอต่อยอดไปถึงพลังของคนรุ่นใหม่ในสังคมไทยที่กำลังถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อแบกรับภารกิจทางประวัติศาสตร์ในอนาคต นั่นคือพลังของ TRR (Thai Reasonable Royalists)

คนรุ่นใหม่ที่ล่าสุดนี้ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นพลังต่อรองอำนาจที่สำคัญสุดที่เหนี่ยวรั้งให้สังคมไทยพ้นจากแนวโน้มขวาจัดที่ลัทธิเทวราชายุคใหม่ครอบอำนาจภายหลังจากยุคราชาชาตินิยมแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้สถาปนาตนเองเป็นอำนาจนำไร้ผู้ต่อต้าน จนกระทั่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยพ่ายแพ้ย่อยยับและกฎหมายต่อต้านคอมมิวนิสต์ก็ถูกยกเลิกไปได้ในที่สุด

TRR คือผลผลิตของทุนนิยมเสรีโลกาภิวัตน์ผสมเข้ากับความเชื่อเรื่องราชาชาตินิยมที่มีเหตุผลรองรับซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังจากการต่อสู้ระหว่างคนเสื้อเหลืองกับคนเสื้อแดงในสงครามสีเสื้อจนกระทั่งตกผลึกมาเป็นกระแสคนรุ่นใหม่ที่รับเอาอุดมการณ์แบบธรรมราชา (อันเป็นการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองของกระแสราชาชาตินิยมในปลายรัชกาลที่ 9 ที่เน้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นจุดขายสำคัญ)

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าความสำเร็จของการปฏิวัติการสื่อสารบนโลกออนไลน์คือต้นทางหนึ่งของกระแส TRR ที่เปิดทางให้ผู้คนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นอิสระมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องสิทธิมนุษยชนและความเชื่อเรื่องเสรีภาพของคน จนกระทั่งกล้าท้าทายกับเรื่องต้องห้ามของสังคม

ความสำเร็จของการจุดกระแสต่อต้านพฤติกรรมที่คร่ำครึ เช่น การยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ การอ้างอิงสื่อต่างประเทศถึงพฤติกรรมที่ไร้เหตุผลของเจ้านายบางคน ก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความมีเหตุมีผล การแสดงออกตามอุดมคติของ TRR อย่างเปิดเผย และการตอบโต้เกินจริงของพวก TUR ได้กลายเป็นความขัดแย้งครั้งใหม่ของสังคมไทยเนื่องจากพวก TUR มักจะกล่าวหาเกินเลยว่าพวกคนรุ่นใหม่ที่มีเหตุผลนี้กลายเป็นแนวร่วมของพวกต่อต้านสถาบัน (TAR) Thai Anti Royalists ไปโดยปริยาย

ผลที่ตามมาคือกระแสของ TAR ไม่ต้องทำอะไรก็เติบโตมากขึ้นเว้นแต่พวก TUR จะเข้าใจและปรับพฤติกรรมเสียใหม่ซึ่งไม่ยากและทำได้แต่นั่นก็เป็นเรื่อง “เป็นไปได้ยาก” จนอาจจะเข้าข่ายกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ไปเสียแล้ว

ปฏิบัติการของการไล่ล่า TRR อย่างเอาเป็นเอาตายนี้น่าจะถือเป็นโศกนาฏกรรมของสังคมอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสังคมไทยซึ่งหวังใจว่าน่าจะมีการจำกัดวงให้เหลือน้อยที่สุด

วิษณุ โชลิตกุล

Back to top button