สังคมข่าวหุ้น

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (24 มิ.ย.) ดัชนีปรับตัวขึ้นแรงปิดที่ 1,100.01 จุด บวก 37.23 จุด หรือ +3.50% โดยระดับปิดเป็นดัชนีสูงสุดของวานนี้ มีมูลค่าการซื้อขาย 52,840.03 ล้านบาท ภาวะการซื้อขายภาคบ่ายมีแรงซื้ออย่างต่อเนื่องจากภาคเช้า เนื่องจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางมีทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้มีแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว นำโดยหุ้น DELTA ที่ราคาปรับตัวขึ้นแรง 8.57% ซึ่งเป็นหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวานนี้ นอกจากนี้ ยังมีแรงซื้อในหุ้นบิ๊กแคปอีกหลายตัวทั้งหุ้น AOT, GULF, CPALL, TRUE เป็นต้น อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้จะต้องติดตามการประชุม กนง.ในช่วงบ่ายว่าจะกำหนดทิศทางดอกเบี้ยอย่างไร

บล.หยวนต้า เผยตลาดหุ้นไทยวานนี้ (24 มิ.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจัยบวกจากตลาดภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวาง ภายหลังจากความกังวลเรื่องความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ลดลง ส่งผลให้ความเสี่ยงในตลาดลดลง ราคาน้ำมันและราคาทองคำปรับตัวลดลง ประกอบกับไม่มีปัจจัยลบในประเทศเพิ่มเติม นอกจากนี้ รัฐบาลและกระทรวงการคลังมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินหนึ่งแสนล้านบาท ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แนวโน้มวันนี้ (25 มิ.ย.) อาจมีการปรับตัวลงบ้างภายหลังจากการปรับตัวขึ้นอย่างแรงวานนี้ โดยนักลงทุนควรจะติดตามการประชุม กนง.เพื่อดูทิศทางนโยบายการเงิน ซึ่งคาดว่าอาจมีการ “คงอัตราดอกเบี้ย” ไว้ก่อน คาดวันนี้แนวรับอาจอยู่ที่ 1,190 จุด และแนวต้านที่ 1,300 จุด แนะนำเลือกลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ เนื่องจากไม่มีเงินใหม่เข้าตลาดประมาณหนึ่งไตรมาสแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นก่อสร้าง-โครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากราคาหุ้นเหล่านี้ได้ปรับตัวลงมาอย่างมากแล้ว จึงมีโอกาสในการฟื้นตัวเมื่อมาตรการเริ่มมีผลบังคับใช้

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับปรุงหลักเกณฑ์การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นการทั่วไป (PO) ที่เกี่ยวกับการ Lock Up หุ้นที่เสนอขายในราคาต่ำกว่าราคาหุ้น IPO เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อบริษัทที่ประสงค์จะเสนอขาย ESOP หรือ RO ก่อนการเสนอขาย IPO รวมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลการเสนอขายหุ้นในราคาต่ำกว่าราคา IPO/PO ของบริษัทต่างประเทศให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของบริษัทไทย

“สุทธิสาร จิราธิวัฒน์” แห่ง บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เปิดเกมรุก ทุ่มงบ 3 ปีกว่า 45,000 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์ “New Heights, Next Growth” เสริมแกร่ง Synergy เร่งขยายตลาดไทย-เวียดนามเต็มสปีด

บมจ.เอสซีจี เดคคอร์ หรือ SCG Decor (SCGD) เดินหน้าตามแผนรุก 4 กลยุทธ์รับมือเศรษฐกิจโลก โดยจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวน ไม่ว่าจะจากราคาพลังงานเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางที่ขยายวงกว้างขึ้น หรือจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกของการขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด เอสซีจี เดคคอร์ จะดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่นและต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพผ่านการลดต้นทุน และการพัฒนาการนำเสนอสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง (High Value Added product)

ดวงดี