CAZ ชุบชีวิตใหม่.!

เป็นหนึ่งในผู้รับเหมาช่วงที่บาดเจ็บหนักจากกรณีกลุ่ม UJV ที่ประกอบด้วย Samsung, Petrofac, และ Saipem ซึ่งเป็นผู้รับเหมาหลักโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project : CFP) ของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เบี้ยวจ่ายค่าจ้าง สำหรับบริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CAZ…

พิสูจน์ทราบได้จากงบปี 2567 ที่ต้องมีการตั้งด้อยค่าสูงถึง 548.72 ล้านบาท ส่งผลให้ตัวเลขบรรทัดสุดท้ายพลิกมาขาดทุนสุทธิ 231.70 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 214.56 ล้านบาท  

งานหายไม่พอ ยังทำให้งบการเงินมีตำหนิด่างพร้อยอีกต่างหาก…

ทำให้ CAZ เจ็บปางตายกับ UJV เลยก็ว่าได้…จากเดิมที่คิดว่าเป็นโอกาส สุดท้ายกลายเป็นตัวทำลายชีวิตซะงั้น..!!

โอเค…พอผ่านวิกฤตมาได้ ไทยออยล์มีการสรรหากลุ่มผู้รับเหมาหลักรายใหม่ ในขณะที่ผู้รับเหมาช่วง แว่ว ๆ มาว่าคงเป็นกลุ่มเดิมนั่นแหละ เพราะรู้งานรู้มือกันดีอยู่แล้ว ก็น่าจะรวม CAZ ด้วยละมั้ง…ซึ่งต้องรอความชัดเจนต่อไป

แต่ที่ชัดแล้วเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่กับงานใหม่ของ CAZ นั่นคืองานพัฒนาท่าเรือก๊าซ (Superstructure) ของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 (เฟส 3) มูลค่า 11,567.47 ล้านบาท ดำเนินการผ่านกิจการค้าร่วม PEC-CAZ Consortium ประกอบด้วย CAZ และบริษัท POSCO Eco & Challenge จำกัด (PEC) 

โครงการดังกล่าวตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง มีบริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด (GMTP) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF (ถือหุ้น 70%) และบริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด หรือ PTT Tank (ถือหุ้น 30%) เป็นเจ้าของโคงการ

ขณะที่ขอบเขตการก่อสร้างของ PEC-CAZ Consortium จะดำเนินงานก่อสร้างและทดสอบระบบท่าเทียบเรือก๊าซและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลวบนพื้นที่ถมทะเลประมาณ 200 ไร่ (สำหรับท่าเรือก๊าซระยะแรก) ระยะเวลาก่อสร้าง 45 เดือน

ถ้าเทียบกับไซส์ซิ่งของ CAZ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีรายได้รวมปีละ 2,000-3,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 770.28 ล้านบาท แต่รับงานระดับหมื่นล้านบาท เป็นการรับงานที่ใหญ่เกินตัวหลายเท่าก็ว่าได้….ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดานะจิบอกให้

ในขณะที่พันธมิตรของ CAZ ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน โดย PEC หรือ POSCO Eco & Challenge เป็นบริษัทในเครือ POSCO ยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านการรับเหมาก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และมีประสบการณ์ตรงจากการร่วมสร้างโครงการมาบตาพุดในระยะที่ 1 และ 2 

ที่น่าสนใจ ถ้าดูจากระยะเวลาก่อสร้าง 45 เดือน หรือนานเกือบ 4 ปี นั่นหมายความว่า จะซีเคียวรายได้ของ CAZ ไปยาว ๆ  เกือบ 4 ปีเลยทีเดียว ส่วนจะรับรู้ปีละเท่าไหร่..?? ก็แล้วแต่งวดงานที่รับ…

นับจากนี้ไปก็เป็นชีวิตใหม่ของ CAZ ที่จะกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง..!! ไม่นับรวมงานใหม่ ๆ ที่จะเติมเข้ามาอีกในอนาคต

ส่วนความเสียหายจาก UJV ก็ว่ากันไป…ซึ่งคงต้องไปไล่บี้ฟ้องร้องดำเนินการตามกฎหมายกันต่อไป

ถ้าชนะคดี…ได้เงินก้อนกลับมาก็ถือเป็นกำไรชีวิต เนื่องจากได้มีการตั้งสำรองไปหมดแล้วในปี 2567…ความเสียหายจาก UJV มีการ Adjust ไปแล้ว

ซึ่งถ้าได้เงินในส่วนนี้…ก็คงมีการกลับรายการบุ๊กเป็นกำไรพิเศษ..?? และทำให้งบในไตรมาสนั้นหรือปีนั้นโป่งพองขึ้นมาทันตา..!!

แต่มันเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นในชาตินี้หรือชาติไหน..?? เพราะการฟ้องร้องบริษัทต่างชาติไม่ใช่เรื่องง่าย

อาจจะต้องตีเป็นหนี้สูญไปเลยนะออเจ้า…

…อิ อิ อิ…